หอยนางรม เป็นหอยทะเลกาบสองฝา ซึ่งฝาทั้งสองมีขนาดไม่เท่ากัน มีสีน้ำตาลหรือสีเทา กาบบนจะใหญ่กว่ากาบล่าง กาบล่างมีลักษณะเป็นโค้งเว้าและเป็นส่วนที่ตัวหอยติดอยู่ ด้านที่มีเนื้อหอยฝังอยู่จะเว้าลึกลงไปคล้ายรูปถ้วยหรือจาน และยึดติดกับวัตถุแข็ง เช่น ก้อนหิน ไม้หลัก หรือเปลือกหอยที่จมอยู่ในทะเล
เมื่อพูดถึงหอยนางรม หลายคนนึกถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่มีชื่อเสียงในเรื่องหอยใหญ่ ซึ่งหมายถึงหอยนางรมนี่เอง ความจริงแล้วหอยนางรมพบทั่วไปบริเวณน้ำตื้นชายฝั่งทะเล ทั้งภาคตะวันออกและภาคใต้ รวมทั้งที่อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง
Ref: 15 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 20 ฉบับที่ 421 เทคโนโลยีการประมง
เกษตรกรรวมกลุ่มเลี้ยงหอยนางรม
เนื่องจากหอยนางรมมีคุณค่าทางอาหารสูง เนื้อในขาวสะอาด กินสดหวานมัน ไม่มีกลิ่นคาว ผู้คนนิยมบริโภค ราคาค่อนข้างแพง ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงมีรายได้ดีด้วย นับเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรบ้านบางมัน หมู่ที่ 2 ตำบลนาคา อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง ได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงหอยนางรมบ้านบางมัน เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ช่วยเหลือกันและกัน และรับการสนับสนุนจากสำนักงานประมงจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สมาชิก 32 คน โดยมี คุณระพี น้ำจันทร์ เป็นประธานกลุ่ม
ประธานกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงหอยนางรมบ้านบางมัน กล่าวว่า สมาชิกกลุ่มส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวนยางพารา สวนไม้ผล เช่น มังคุด ลองกอง เงาะ เป็นต้น มีเวลาว่างจากการทำสวนก็เลี้ยงหอยนางรม เลี้ยงปลาในกระชัง บริเวณริมฝั่งทะเลใกล้ๆ บ้าน
"หอยนางรมที่เลี้ยงจากที่นี่คุณภาพดี เนื่องจากทำเลที่ตั้งเหมาะสมคือ อยู่ในพื้นที่ที่เป็นอ่าว มีภูเขาด้านหน้าเป็นแนวกันลม และกันคลื่นแรงจากทะเลได้เป็นอย่างดี บริเวณรอบอ่าวห้อมล้อมไปด้วยป่าชายเลน ป่าโกงกางที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหารและเป็นแหล่งขยายพันธุ์หอยนางรมตามธรรมชาติ และที่สำคัญพื้นที่บริเวณนี้ไม่มีนากุ้งและไม่มีโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเท่ากับไม่มีแหล่งน้ำเสีย ปนเปื้อนสารเคมีปล่อยลงมารบกวนการเลี้ยงหอยนางรม ทำให้หอยเจริญเติบโต อ้วน สมบูรณ์ดีและปลอดภัยจากสารพิษ" คุณระพี บอก
คุณระพีได้เล่าถึงการเลี้ยงหอยนางรมว่า ตนเองและสมาชิกหลายคนเลี้ยงหอยมานาน เกือบ 20 ปี การเลี้ยงจะเลี้ยงในแพขนาดใหญ่ เล็กตามแต่เงินทุนของแต่ละคน ในแพจะแบ่งพื้นที่เป็นห้องๆ แต่ละห้องมีขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 3 เมตร แพใหญ่ มีกว่า 12 ห้อง แพกลาง มี 8-10 ห้อง และแพเล็กมี 8 ห้องลงมา แต่ละห้องจะเลี้ยงหอยนางรมได้ 3,000 ตัว
เลี้ยงหอยนางรมใช้พันธุ์จากแหล่งธรรมชาติ
ลงทุนน้อย รายได้ดี
ด้วยความที่ทำเลที่เลี้ยงหอยนางรม ที่ห้อมล้อมด้วยป่าชายเลน ป่าโกงกางดังกล่าวแล้วทำให้เป็นแหล่งอาหารและแหล่งขยายพันธุ์หอยนางรมได้เป็นอย่างดี สมาชิกกลุ่มจึงสามารถเก็บพันธุ์หอยจากธรรมชาติมาเลี้ยงได้เอง เป็นการลดต้นทุนอีกทางหนึ่ง และเมื่อได้พันธุ์หอยมาแล้ว เกษตรกรจะนำมาร้อยเป็นพวง พวงละ 10 ตัว แต่ละพวงใช้เชือกยาว 1.5-2 เมตร การนำหอยมายึดติดกับเชือกโดยใช้ปูนซีเมนต์เป็นตัวเชื่อม
จากนั้นนำหอยนางรมที่ร้อยเป็นพวง ไปผูกบนแพไม้ไผ่ให้เต็มพื้นที่ เฉลี่ยห้องละ 300 พวง พวงละ 10 ตัว หาก 1 แพ มี 10 ห้อง ก็เท่ากับเกษตรกรเลี้ยงหอยนางรมได้ 30,000 ตัว ต่อแพ
เรื่องการดูแล ให้อาหาร ประธานกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงหอยนางรมบ้านบางมัน บอกว่า ไม่ต้องดูแลมากมาย ไม่ต้องให้อาหาร หอยนางรมจะคอยดักแพลงตอนพืช และแพลงตอนสัตว์ที่ไหลมาตามน้ำอย่างอุดมสมบูรณ์เป็นอาหาร เพียงแต่ต้องคอยตรวจตราอย่าให้ขยะ ถุงพลาสติค หรืออื่นๆ ที่ไหลมาตามน้ำมาเกาะติดกับพวงหอย ทำให้หอยไม่สะดวกในการกินอาหาร ส่งผลให้หอยผอมหรือตายได้
ขายดี ตัวละ 10-15 บาท
คุณระพี กล่าวถึงการตลาดว่า การตลาดหอยนางรมไม่มีปัญหา ปัญหาที่มีคือไม่มีหอยให้เพียงพอกับความต้องการของตลาด ปกติตลาดจะขายให้กับแม่ค้าในท้องถิ่นเพื่อนำมาขายตามร้านริมถนนสายระนองไปอำเภอสุขสำราญบริเวณบ้านบางมัน และอีกส่วนจะขายให้กับแม่ค้าจากต่างจังหวัด โดยเฉพาะจากสุราษฎร์ธานี การขาย จะนับขายเป็นตัว ราคาตัวละ 10-15 บาท ขึ้นกับขนาดเล็กใหญ่
ท่านผู้อ่านหากมีโอกาสมาเที่ยวจังหวัดระนอง "คอคอดกระ ภูเขาหญ้า กาหยูหวาน ธารน้ำแร่ มุกแท้เมืองระนอง" ขอเชิญไปลิ้มลองหอยนางรมสดๆ เนื้อขาวสะอาด กินสดหวานมัน อร่อย ไม่มีกลิ่นคาว ไม่เหนียว และที่สำคัญปลอดภัยจากสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม
สนใจติดต่อโดยตรงที่ คุณระพี น้ำจันทร์ ประธานกลุ่มเกษตรกรเลี้ยงหอยนางรมบ้านบางมัน เลขที่ 10/1 หมู่ที่ 2 ตำบลนาคา อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง โทร. (086) 272-6835
GoogleCyberSearch
Shared Items
Labels
- ႐ႊင္ျမဴးစရာ (3)
- Agri and Fishery (11)
- Art and Literature (2)
- Dhamma - Beliefs (7)
- Earth-Weather-Travel (8)
- Economy-Business-Finance (22)
- Energy (4)
- Fun/Humor (10)
- General (1)
- Health (3)
- History - Politics (11)
- Ideas - Opinions (6)
- IT (22)
- Life Style (7)
- Local (21)
- Society - Community (1)
- Technology (14)
- Travel (4)
- การเกษตร (2)
- ขำขัน (8)
- ท่องเทียว (4)
- เทคโนโลยี (11)
- เทคโนโลยี-วิทยาศาสตร์ (3)
- ธุรกิจ (4)
- บ้า้นและครอบครัว (1)
- ประวัติศาสตร์ (2)
- ปรัชญา - ธรรมะ (10)
- พม่า (11)
- พลังงาน (5)
- ระีนอง - เกาะสอง (25)
- เศรษฐกิจ (10)
- สังคม (9)
- สัตว์น้ำและอาหารทะเล (10)
- สุขภาพ - อาหาร (12)
- ကမၻာေျမ (2)
- က်န္းမာေရး (8)
- ခရီးသြားျခင္း (5)
- စားဝတ္ေနေရး (8)
- စာေပ၊ ယဥ္ေက်းမႈ (5)
- စီးပြား၊ကုန္သြယ္ (32)
- စုိက္ပ်ဳိးေရး (6)
- ဓမၼ - ဂမၺီရ (5)
- မိုးေလဝသ (1)
- ျပည္ျမန္မာ (13)
- လူမႈဘဝ (8)
- သိပၸံႏွင္႔နည္းပညာ (16)
- သီခ်င္းမ်ား (2)
- အေတြးအျမင္ (6)
- အေထြေထြ (8)
- ေဒသသတင္း (24)
- ေရလုပ္ငန္း (14)
- ႏိုင္ငံေရး (11)
Contact to Blogmaster at kawthaung@gmail.com
Vistors Stats
Friday, December 21, 2007
เลี้ยงหอยนางรม ที่สุขสำราญ ระนอง
Labels: สัตว์น้ำและอาหารทะเล
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Kawthaung Glimpse 2008
Blog Archive
-
▼
2007
(201)
-
▼
December
(53)
- ရက္တိုအတြင္း ဝင္ေငြျပန္လည္ရရွိမည့္ ပင္လယ္ေရေမွာ္ ေ...
- Popular Christmas Gifts in the US
- Algae farming
- Stagflation…น่ากลัวอย่างไร?
- Windows Starter Kit
- Security Starter Kit
- ထိုင္းႏိုင္ငံတြင္ ၁၀ ႏွစ္ေက်ာ္ေနထိုင္လာသူ ျမန္မာႏွ...
- 10 extension ยอดเยี่ยมของ Firefox
- The best of the Google Earth and Maps
- ျမန္မာအေလာင္း (၂၂) ေလာင္းကို ထုိင္းေရပိုင္နက္တြင္ ...
- The 10 best downloads of 2007
- 2550 ธุรกิจประมงสุดอ่วม แห่ทิ้งเรือขึ้นฝั่งหนีขาดทุน
- လူကိုကူးစက္မႈျဖစ္သျဖင့္ ၾကက္သားစားသံုးမႈေလ်ာ့
- 10 Best Firefox Extensions of 2007
- မတည္မညိမ္ ထုိင္းႏုိင္ငံေရး၊ ျမန္မာျပည္လုိ တစ္ခါ အ႐...
- Future of Maine Aquaculture Looks Bright
- เลี้ยงหอยนางรม ที่สุขสำราญ ระนอง
- တရုတ္စီးပြား အင္အားထင္ သေလာက္ မႀကီးပါ
- Trade clampdown reported at Mae Sot border bridge
- โทรศัพท์และอีเมล์ถูกนำมาใช้บอกเลิกคนรัก
- กูเกิล บริษัทน่าทำงานที่สุดในปี 2007 - Fortune
- What Do Venture Capitalists Know?
- ဂ်ပန္သိပၸံပညာရွင္မ်ားက ေၾကာင္ကိုမေၾကာက္ေသာ ၾကြက္မ်...
- သစ္ေတာတို့လည္း မစိမ္းစိုေတာၿပီ
- *ျမန္မာ့ငါးျမစ္ခ်င္းမ်ား ျပည္ပေစ်းကြက္တြင္ မ်က္ႏွာ...
- เคล็ดลับภูมิไม่แพ้
- Strategic IT Management
- ASEAN Foundation - AIT Scholarship
- Burma Comparisons
- พม่าแฉจ่าย 9 แสนจั๊ตลอบเข้าเมืองระนอง ก่อนผ่านไปมา...
- ျမန္မာႏိုင္ငံတြင္း ၾကက္ငွက္တုတ္ေကြးေရာဂါ ပထမဆံုး လ...
- ျမန္မာႏိုင္ငံကို ျဖတ္သန္းဆက္သြယ္ မည္႕ အျပည္ျပည္ဆို...
- ျမန္မာႏိုင္ငံကို ျဖတ္သန္းဆက္သြယ္ မည္႕ အျပည္ျပည္ဆို...
- คำยอดนิยมปี 2007 โดย Google และ Yahoo
- Reader and Talk are Friends!
- မုန္တိုင္းသင့္ခဲ့သည့္ ဆန္တာဘန္းလမုေတာႀကီး ျပဳစုပ်ဳ...
- คอมพิวเตอร์ตกรุ่นแถมยังชำรุดซ่อมไม่ได้ ทำไงดี
- อำเภอเมืองระนองมอบเลข 13 หลักให้คนไทย 53 คน
- ျမဝတီကုန္သြယ္ေရးဇုန္ - ရန္ကုန္ႏွင့္ အနီးဆံုး အေရ့ွ...
- แก่นของ VI
- Zawgyi Unicode, VOA and RSS
- ေဒၚလာငွက္မ်ား ဘယ္မွာနားပါ့မယ္
- ဂ်ပန္တြင္ အႀကီးမားဆံုး တရားမ၀င္ေငႊလႊဲမႈျဖင့္ ျမန္မ...
- ၂ဝဝ၆-၂ဝဝ၇ ဘ႑ာေရးႏွစ္ရဲ႔ ျမန္မာျပည္၏ ႏိုင္ငံျခားရင္...
- ဆီအုန္းဧကတစ္သိန္းခြဲ မေလးရွားကုမၸဏီလာစိုက္မည္
- ကဏန္းေပ်ာ့ ေမြးျမဴမႈ ပုိမုိ တြင္က်ယ္လာဖြယ္ရွိ
- พม่าขอไทยตรวจสอบจนท.รีดไถเงิน'เกาะสอง'
- ကုိလုိနီေခတ္ သခင္ေအာင္ဆန္း၏ လြပ္လပ္ေရးလုပ္ငန္းစဥ္ ...
- ตามหาความเป็นไทยใหญ่ที่เปียงหลวง
- ถนนสู่ประชาธิปไตยในพม่าหลังการประท้วงใหญ่ ทางออกหร...
- ในหลวงนักเศรษฐศาสตร์
- အာရွစီးပြားေရးနဲ႔ ပတ္သက္တဲ့ ADB အစီရင္ခံစာ
- ေဒါင္းစုတ္(ဘြတ္ကလံု)ငွက္မ်ား ရွား ပါး
-
▼
December
(53)
Visitors
Visitor Link
Misc Synopsis
- ကံေကာင္းေသာ လူငယ္မ်ားသည္ သူ႔ဘဝတြင္ "ဘယ္စာကိုဖတ္၊ ဘယ္စာကို မဖတ္နဲ႔" ဟူေသာ အၾကံေပးခ်က္မ်ိဳး ရ႐ွိခဲ့၏။ ကံဆိုးေသာ လူငယ္မ်ားသည္ ဘာအၾကံေပးခ်က္မွ မရွိပါ။ ထိုအမ်ိဳးအစားထဲမွ စိတ္ဓာတ္အင္အား ျပည့္စံုေသာ လူငယ္မ်ား၊ ႀကိဳးစားလိုေသာ လူငယ္မ်ား၊ ႐ွာေဖြစူးစမ္းလိုေသာ လူငယ္မ်ားသည္ မည္သူ႔အကူအညီမွ် မပါဝင္ဘဲ မိမိတို႔ဘာသာ သင့္ေတာ္ရာရာကို ေ႐ြးခ်ယ္ သြားတတ္ၾကသည္။ တခ်ိဳ႔ကေတာ့ သူတို႔ ဘာကိုလိုခ်င္မွန္း သူတို႔ကိုယ္တိုင္ မသိသူမ်ား ျဖစ္ၾကပါသည္။ ေလာကတြင္ မိမိဘာ လိုခ်င္သည္ဟု မွန္ကန္စြာသိ၍ မိမိ လိုခ်င္ေသာ အရာကို ရေအာင္ယူႏိုင္ေသာ လူငယ္မ်ားလည္း ႐ွိၾကသည္။ လူတေယာက္ မိမိဘဝတြင္ ဘာလိုခ်င္သည္ ဟု အတိအက် သိလာ ရန္ စာအုပ္မ်ားစြာက တြန္းအားေပးႏိုင္သည္ဟု ကြၽန္မ ထင္ပါသည္။ ဂ်ဴး
- ဂန္ဘာရီနဲ ့နအဖ တို ့ရဲ ့ကေလးကလား လုပ္ရပ္မ်ား - နဖအ က ေဒၚစုကို ေနအိမ္မွာအက်ယ္ခ်ဳပ္ခ်ထားတာ တကမၻာလံုးသိပါတယ္။ ဘယ္လိုေနအိမ္မွာအက်ယ္ခ်ဳပ္ခ်ထားလဲဆိုရင္ အိမ္ေရွ ့တခါးကိုေသာ့နဲ ့ခတ္ထားတယ္။ ေဒၚစုျခံ၀န္းထဲမွာ စစ္တပ္ခ်ထားတယ္။ ေဒၚစုကို ေတြ ့ခ်င္တယ္တဲ့သူေတြက သူတို ့က ၀င္ေစဆိုတဲ့အမိန္ ့ရမွာ၀င္လို ့ရတယ္။ ေဒၚစု ရဲ က်မာေရးကို တာ၀န္ခံထားတဲ့ေဒါက္တာတင္မ်ိဳး၀င္းေတာင္ ၀င္ေတြ ့ျခင္တိုင္း၀င္ေတြ ့လို ့မရဘူး။ သန္းေရြ ရဲ ့ခြင့္ျပဳခ်က္ရမွေဒၚစုကိုေတြ ့ခြင့္ရတယ္။ ေဒၚစုေရွ ေနက ေဒၚစုကို ေတြ ့ျခင္တိုင္းေတြ ့လို ့မရဘူး။ အန္အဲလ္ဒီစီအီစီ ဆိုရင္လည္း ေဒၚစုကို အိမ္မွာေတာင္ေတြ ့ခြင့္မရၾကဘူး။ ဒီလို အေျခအေနမ်ိဳးမွာ ဂန္ဘာရီ ကိုယ္စားလွယ္နဲ ့ နအဖ ကိုယ္စားလွယ္က ေဒၚစုအိမ္ေရွ ့ကိုသြားျပီး ေဒၚေအာင္ဆန္းစုၾကည္ ဂန္ ဘာရီက ေတြ ့ျခင္လို ့ပါလို ့ အိမ္ေရွ ့ကေန ေလာစပီကာနဲ ့သြားေအာ္ေနတာ အေတာ့ကို ကေလးကလားဆန္ျပီ အရူးထတဲ့လုပ္ရပ္ျဖစ္ပါတယ္။ က်ေနာ္ေမးျခင္တာက သူတို ့မွာ ေဒၚစုအိမ္ကိုခတ္ထားတဲ့ေသာ့ရိွရဲ ့သားနဲ ့ဖြင့္ျပီး ၀င္သြားလိုက္ၾကပါလား။ အိမ္ကိုေသာ့ခတ္ထားတဲ့သူက တခါးဖြင့္ေပးပါလို ့ေအာ္ေနတာကေတာ့ အေတာကိုညဏ္နည္းလွၾကပါတယ္။ Ko Moe Thee Blog
- အဲဒီသ၀ဏ္လႊာနဲ႔ ပတ္သက္ၿပီး မေလးရွား၀န္ႀကီးခ်ဳပ္ ဘာဒါ၀ီက ျမန္မာႏိုင္ငံအေနနဲ႔ အာဆီယံရဲ႕ ျပည္တြင္း ေရး မစြက္ဖက္ေရးမူကို အကာအကြယ္မယူသင့္ဘူးလို႔ မိန္႔ခြန္းမွာ ထည့္သြင္းေျပာၾကားသြားပါတယ္။ ဒါ့အျပင္ အာဆီယံရဲ႕ အဓိကအဖြဲ႔၀င္ႏိုင္ငံျဖစ္တဲ့ မေလးရွားႏိုင္ငံက အဖြဲ႔ႀကီးရဲ႕ အဓိကမူတရပ္ျဖစ္တဲ့ ျပည္တြင္းေရး မစြက္ဖက္ေရးမူကို ျပန္လည္အနက္အဓိပၸၸၸၸၸါယ္ ဖြင့္ဆိုသင့္ၿပီလို႔ ေျပာၾကားခဲ့ပါတယ္။ / Dr.LwanSwe
- ရွစ္ေလးလံုး အေရးအခင္းနဲ႔အတူ နာဂစ္မုန္တိုင္းအေပၚ စစ္အစိုးရ တံု႔ျပန္မႈဟာ ျမန္မာႏိုင္ငံတြင္း မွာရွိတဲ့ အႀကီးမားဆံုး လူ႔အခြင့္အေရး ခ်ိဳးေဖာက္မႈေတြရဲ႕ “နိဂံုး” ျဖစ္မယ္လုိ႔ လူအမ်ားစုက ေမွ်ာ္ လင့္ထားၾကတယ္။ ဒါေပမယ့္ နိဂံုးျဖစ္ျဖစ္၊ မျဖစ္ျဖစ္ ဒီတႀကိမ္ေတာ့ ျမန္မာ့အေရးဟာ ျမန္မာ ႏိုင္ငံသားေတြ (“၈၈မ်ိဳးဆက္” ေက်ာင္းသားေတြဟာ ရဲ၀ံ့စြာနဲ႔ ေရွ႕ကေန ဦးေဆာင္ေနတယ္) တင္ မကေတာ့ဘူး ကုလသမဂၢ လံုျခံဳေရးေကာင္စီနဲ႔ ျမန္မာႏိုင္ငံရဲ႕ အာရွအိမ္နီးခ်င္းႏိုင္ငံေတြရဲ႕ ႏိုင္ငံေရး ဆႏၵေပၚမွာလည္း မူတည္ေနပါတယ္။ အႏွစ္ (၂၀) ဆိုတာ ရွည္လ်ားတဲ့ အခ်ိန္ကာလ ျဖစ္ေပမယ့္ သိပ္ေတာ့ ေနာက္မက်ေသးပါဘူး။ / New Era Journal
- Failed States Index 2008 - အားလံုးေပါင္း ၁၂ ခုရွိတဲ့ စံညႊန္းေတြထဲမွာ ျမန္မာႏိုင္ငံဟာ လူ႔အခြင့္အေရးစံညႊန္းမွာ အဖိႏွိပ္ခံရဆံုး တဖက္စြန္းမွာေရာက္ေနၿပီး ျပည္ပစြက္ဖက္မႈမွာေတာ့ အေစာကေရးသလို အနည္းဆံုးပါ၊ ဒီႏွစ္ခုက အမ်ားဆံုး နဲ႔ အနည္းဆံုး အစြန္းႏွစ္ဖက္ ေရာက္ေနတာကလြဲလို႔ က်န္တာေတြက ထိပ္ဆံုးမေရာက္တေရာက္မွာ။ ၂၀၀၅ တုန္းက ထိပ္ဆံုး ၂၀ ထဲမွာ ျမန္မာမပါဘူး၊ ၂၀၀၆ က်ေတာ့ နံပါတ္ ၁၈ နဲ႔ အေရွ႔တက္လာတယ္၊ ၂၀၀၇ မွာ အဆင့္ ၁၄၊ ေဟာ၊ အခု ၂၀၀၈ မွာ အဆင့္ ၁၂ ျဖစ္သြားၿပီ။ ဒီလို တႏိုင္ငံလံုးခ်ီၿပီး ညံ့ဖ်င္းေနတာ ဦးေဆာင္လမ္းျပေနတဲ့ေခါင္းေဆာင္ တာဝန္မကင္းဘူး၊ ဒါေၾကာင့္ ႏိုင္ငံေတြစာရင္းအျပင္ ေခါင္းေဆာင္ေတြရဲ့ စာရင္းကိုလည္း ျပဳစုထုတ္ျပန္ထားတယ္။ Degolar
0 comments:
Post a Comment