ปี 2550 สถานการณ์ของผู้ประกอบการประมงไทย หนึ่งในอาชีพหลักของคนไทย ที่อยู่คู่กับประเทศไทย สังคมไทยมายาวนาน กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ทั้งนี้เป็นเพราะปัจจัยลบต่างๆ ที่กระหน่ำรุมเร้าผู้ประกอบการประมง ทั้งปัญหาราคาน้ำมันที่แพง,ราคาสัตว์น้ำที่ตกต่ำ ทั้งยังประสบปัญหาภัยธรรมชาติ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศโลก เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อผู้ประกอบอาชีพนี้ จนขณะนี้ถือว่า กำลังอยู่ในช่วงวิกฤติที่สุด หลายรายถึงขั้นยกธงขาวยอมแพ้ ในขณะที่หลายรายยังกัดฟันสู้ โดยมีความหวังสุดท้าย คือ มาตรการความช่วยเหลือจากภาครัฐ หรือแม้แต่พึ่งเงินนอกระบบ ผลกระทบที่เกิดไม่เพียงกับผู้ประกอบการประมงโดยตรงเท่านั้น แต่รวมถึงภาคอุตสาหกรรมต่อเนื่อง กิจการแพปลา ห้องเย็นที่ต่างได้รับผลกระทบอย่างถ้วนหน้า จนต้องเร่งปรับตัวขนานใหญ่กับวิกฤติปัญหาที่เกิดขึ้น
โดย ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2281 23 ธ.ค. - 26 ธ.ค. 2550
หลากปัจจัยลบรุมกระหน่ำ
นายทวี บุญยิ่ง ที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการประมงแห่งประเทศไทย อดีตนายกสมาคมประมงจังหวัดระนอง และเจ้าของกิจการเรือประมง กล่าวว่า สภาวการณ์ของผู้ประกอบการประมงในขณะนี้ อยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่มาก อันเป็นผลกระทบมาจากปัญหาต่างๆ โดยปัญหาหลักที่สร้างความหนักใจให้กับผู้ประกอบการประมงมากที่สุด นั่นคือ ปัญหาเรื่องราคาน้ำมัน ซ้ำร้ายในขณะนี้ราคาสัตว์น้ำที่จับได้ยังมีราคาตกต่ำ เนื่องมาจากมีสัตว์น้ำจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งพม่าและอินโดนีเซียเข้ามาตีตลาด
นอกจากนี้ปัญหาภัยธรรมชาติ ก็กำลังกลายเป็นอีกปัญหาที่เข้ามาสร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการประมงเช่นกัน เพราะไม่สามารถนำเรืออกไปจับปลาได้อย่างเต็มที่ ต้องคอยหลบพายุ ทำให้ปริมาณปลาที่จับได้มีจำนวนลดน้อยลง ทำให้เรือประมงเริ่มทยอยหยุดออกหาปลา รวมถึงปัญหาภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะพายุจากทะเลอันดามัน แต่ปรากฏว่าราคาสัตว์น้ำกลับไม่ได้พุ่งสูงขึ้นแต่ประการใด แม้ว่าปริมาณปลาที่เข้าสู่ฝั่งจะลดลงถึง 40% หรือการโยกย้ายถิ่นฐานของแหล่งสัตว์น้ำอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศโลกล้วนแต่มีผลกระทบต่อผู้ประการประมงทั้งสิ้น
ด้านนายประพร เอกอุรุ นายกสมาคมประมงจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ตอนนี้เรือประมงในจังหวัดสงขลากว่า 7,600 ลำ ไม่สามารถทนแบกรับกับภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น โดยเฉพาะต้นทุนราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นมานานกว่าปีอีกต่อไปไหว โดยเฉพาะเรือประมงขนาดเล็กต่างประสบปัญหาขาดทุนกว่าเดือนละ 60,000 บาท เรือประมงขนาดใหญ่ขาดทุนเดือนละไม่ต่ำกว่า 150,000-160,000 บาท ทำให้ขณะนี้เรือประมงทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่จำต้องหยุดกิจการไปแล้วประมาณ 3,400 ลำ ซึ่งการแก้ปัญหาที่ผ่านมาทางสมาคมประมง พยายามประสานไปยังสมาคมประมงแห่งประเทศไทย เพื่อขอให้รัฐบาลหาแนวทางในการช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าผู้ประกอบการประมงไม่เคยได้รับการดูแลจากรัฐบาลแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้ความหวังสุดท้ายอยู่ที่รัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้ง ที่หวังว่าจะช่วยเข้ามาดูแลปัญหาของชาวประมงบ้าง ซึ่งตอนนี้ถือได้ว่าอยู่ในช่วงที่วิกฤติที่สุด
โร่้เงินนอกระบบต่อลมหายใจ
"ขณะนี้เรือประมงทุกลำที่ออกไปจับปลาต่างประสบปัญหาขาดทุนจนไม่สามารถที่จะดำเนินกิจการต่อไปไหว ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายพยายามที่จะหาเงินทุนเข้ามาเพื่อช่วยประคับประคองกิจการให้ดำรงต่อไปได้ แต่ปรากฏว่าปัญหาขณะนี้ คือทางธนาคารจะไม่ปล่อย้ให้กับผู้ประกอบการประมง เนื่องจากผลประกอบการของผู้ประกอบการแต่ละราย ต่างอยู่ในภาวะที่ขาดทุน จนทำให้ผู้ประกอบการต้องหาเงินทุนจากนอกระบบเข้ามาช่วยประคับประคองสถานภาพ ซึ่งจากการที่มีการประเมินในตอนนี้คาดว่า มีผู้ประกอบการประมงโดยเฉพาะผู้ประกอบการประมงขนาดเล็กและขนาดกลางเข้าไป้เงินนอกระบบแล้วกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งตามความเห็นของผมคิดว่าทางรัฐบาลน่าจะมีแนวทางในการช่วยเหลือให้เป็นรูปธรรม นอกจากเรื่องของน้ำมันม่วง หรือน้ำมันเขียวแต่อย่างเดียว แต่อาจจะมีกองทุนเกี่ยวกับการประมงเพื่อจะได้เข้ามาช่วยเหลือ และผู้ประกอบการประมงจะได้มีเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ"นายทวีกล่าว
จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการประมงที่ไม่สามารถทนแบกรับกับภาวะค่าต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้อีกต่อไปไหว ได้ทยอยนำเรือเข้ามาจอดแล้วกว่า 500 ลำ จากจำนวนเรือประมงที่จับปลาในน่านน้ำพื้นที่จังหวัดระนองที่มีกว่า 3,000 ลำ และทั่วประเทศขณะนี้ทราบว่า มีผู้ประกอบการประมงนำเรือเข้ามาจอดแล้วไม่ต่ำกว่า 5,000 ลำจากจำนวนเรือประมงทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณ 50,000 ลำ สำหรับในส่วนของจังหวัดระนองที่ยังมีสัตว์น้ำวางจำหน่าย พบว่ากว่า 60% มาจากเรือประมงของพม่า ที่นำปลาเข้ามาขายยังฝั่งไทย เพราะได้ราคาดีกว่า ส่วนสัตว์น้ำที่จับได้จากเรือประมงไทยตอนนี้มีน้อยมาก โดยตอนนี้ผู้ประกอบการประมงต่างรอความหวังกับรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้น
แพปลาเริ่มทยอยปิดตัว
ด้านธุรกิจต่อเนื่องต่างก็ประสบปัญหาไม่ต่างจากผู้ประกอบการธุรกิจประมงเท่าไรนัก นายวีระ บุญราศี เจ้าของแพปลาชื่อโกตา ซึ่งเป็นแพปลาขนาดใหญ่ในเขตพื้นที่จังหวัดระนอง อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดระนอง และเจ้าของกิจการแพปลาที่มหาชัย เปิดเผยว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นได้ส่งผลต่อปริมาณสัตว์น้ำที่จับได้มีปริมาณลดลงเป็นจำนวนมาก จนส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่อเนื่อง เช่น กิจการแพปลาปัจจุบันหลายแพเริ่มทยอยปิดกิจการทั้งชั่วคราวและถาวร โดยเฉพาะในเขตพื้นที่จังหวัดระนองซึ่งอดีตเป็นพื้นที่ที่มีการซื้อขายสัตว์น้ำประเภทปลามากที่สุดในภาคใต้ จนทำให้มีกิจการแพปลาเกิดขึ้นกว่า 300 แพ แต่ปัจจุบันลดเหลือเพียงแค่ประมาณ 120 แพเท่านั้น และยังมีทีท่าว่าจะปิดตัวเองอีกหลายแพ หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นปัจจุบันนี้ กิจการแพปลาส่วนใหญ่ที่ยังอยู่ได้ นอกจากต้องมีต้นทุนที่มากพอแล้ว ยังต้องอาศัยความสัมพันธ์กับผู้ประกอบการเรือประมง ที่เข้าไปจับสัตว์น้ำในเขตพื้นที่ประเทศพม่า ซึ่งขณะนี้หลายแพต่างแย่งที่จะให้สัตว์น้ำที่เข้ามาจากพม่ามาขึ้นที่แพของตน เพื่อจะได้มีรายได้หล่อเลี้ยงแพต่อไปได้
นายชูชัย รังสิยานันท์ ประธานกรรมการ บริษัท ระนองโฟรเซ่นฟู้ด จำกัด ผู้ส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งรายใหญ่ในภาคใต้ เปิดเผยว่า ตอนนี้สถานการณ์ประมงไทยถือว่าวิกฤติมาก และเริ่มส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมต่อเนื่อง แปรรูปสัตว์ อาหารทะเลแช่แข็งอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในส่วนของภาคอุตสาหกรรม ก็คงจะต้องปรับตัวมากเช่นกันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในส่วนของตนขณะนี้ คือ การหาแหล่งวัตถุดิบสำรองจากเดิมที่ซื้อเฉพาะวัตถุดิบในเขตพื้นที่ระนองเป็นหลัก แต่ตอนนี้สถานการณ์เริ่มไม่แน่นอน จึงได้หาแหล่งวัตถุดิบใหม่ไว้สำรองทั้งที่มหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งขณะนี้เรือประมงที่เข้าไปจับปลาในน่านน้ำประเทศอินโดนีเซียส่วนใหญ่จะขึ้นฝั่งที่นี่เกือบทั้งหมด ซึ่งก็พอที่จะมีวัตถุดิบเพียงพอรองรับภาคการผลิตได้ในระดับหนึ่ง แต่หากต้องการขยายฐานธุรกิจให้กว้างยิ่งขึ้น
ขณะนี้ทางบริษัทเตรียมที่จะขยายตลาดอาหารทะเลแช่แข็งเข้าไปยังตลาดในประเทศจีน จึงต้องหาแหล่งวัตถุดิบเพิ่มขึ้นอีก ทั้งจากฝั่งอ่าวไทย รวมถึงในประเทศที่มีการทำประมงมาก เช่น ประเทศโอมาน หรือเยเมน ซึ่งก็เป็นส่วนหนึ่งของฐานวัตถุดิบสำรองที่จำเป็นต้องมองหาไว้ นอกจากนี้ในส่วนของฐานการผลิตใหม่ๆ ขณะนี้เหล่าบรรดาผู้ประกอบการต่างได้มีการพูดคุยกันมากเช่นกัน โดยเฉพาะในประเทศเวียดนามซึ่งมีวัตถุดิบประเภทสัตว์น้ำเป็นจำนวนมาก หากประเทศไทยยังประสบปัญหาเช่นนี้ก็อาจจะมีผู้ประกอบการบางส่วน อาจจะเข้าไปสร้างฐานใหม่ ซึ่งตนก็เคยเดินทางเข้าไปดูพื้นที่แล้วเช่นกัน ซึ่งยอมรับว่าน่าสนใจมาก แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นตัดสินใจที่จะขยายฐานเข้าไป เนื่องจากในไทยที่มีอยู่ตอนนี้ก็ยังเพียงพอที่จะขยายฐานตลาดได้อีกมาก
ปัญหาความอยู่รอดของผู้ประกอบการประมงและธุรกิจต่อเนื่อง วันนี้ยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ตราบใดที่ราคาน้ำมันซึ่งเป็นต้นทุนหลัก ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลงและคาดกันว่า จะไม่มีโอกาสเห็นราคาน้ำมันถูกลงอีกแล้ว หากไม่มีการสนับสนุนจากรัฐบาล ความอยู่รอดจึงขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการเอง ส่วนรายเล็กคงรอดยาก
GoogleCyberSearch
Shared Items
Labels
- ႐ႊင္ျမဴးစရာ (3)
- Agri and Fishery (11)
- Art and Literature (2)
- Dhamma - Beliefs (7)
- Earth-Weather-Travel (8)
- Economy-Business-Finance (22)
- Energy (4)
- Fun/Humor (10)
- General (1)
- Health (3)
- History - Politics (11)
- Ideas - Opinions (6)
- IT (22)
- Life Style (7)
- Local (21)
- Society - Community (1)
- Technology (14)
- Travel (4)
- การเกษตร (2)
- ขำขัน (8)
- ท่องเทียว (4)
- เทคโนโลยี (11)
- เทคโนโลยี-วิทยาศาสตร์ (3)
- ธุรกิจ (4)
- บ้า้นและครอบครัว (1)
- ประวัติศาสตร์ (2)
- ปรัชญา - ธรรมะ (10)
- พม่า (11)
- พลังงาน (5)
- ระีนอง - เกาะสอง (25)
- เศรษฐกิจ (10)
- สังคม (9)
- สัตว์น้ำและอาหารทะเล (10)
- สุขภาพ - อาหาร (12)
- ကမၻာေျမ (2)
- က်န္းမာေရး (8)
- ခရီးသြားျခင္း (5)
- စားဝတ္ေနေရး (8)
- စာေပ၊ ယဥ္ေက်းမႈ (5)
- စီးပြား၊ကုန္သြယ္ (32)
- စုိက္ပ်ဳိးေရး (6)
- ဓမၼ - ဂမၺီရ (5)
- မိုးေလဝသ (1)
- ျပည္ျမန္မာ (13)
- လူမႈဘဝ (8)
- သိပၸံႏွင္႔နည္းပညာ (16)
- သီခ်င္းမ်ား (2)
- အေတြးအျမင္ (6)
- အေထြေထြ (8)
- ေဒသသတင္း (24)
- ေရလုပ္ငန္း (14)
- ႏိုင္ငံေရး (11)
Contact to Blogmaster at kawthaung@gmail.com
Vistors Stats
Monday, December 24, 2007
2550 ธุรกิจประมงสุดอ่วม แห่ทิ้งเรือขึ้นฝั่งหนีขาดทุน
Labels: สัตว์น้ำและอาหารทะเล
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Kawthaung Glimpse 2008
Blog Archive
-
▼
2007
(201)
-
▼
December
(53)
- ရက္တိုအတြင္း ဝင္ေငြျပန္လည္ရရွိမည့္ ပင္လယ္ေရေမွာ္ ေ...
- Popular Christmas Gifts in the US
- Algae farming
- Stagflation…น่ากลัวอย่างไร?
- Windows Starter Kit
- Security Starter Kit
- ထိုင္းႏိုင္ငံတြင္ ၁၀ ႏွစ္ေက်ာ္ေနထိုင္လာသူ ျမန္မာႏွ...
- 10 extension ยอดเยี่ยมของ Firefox
- The best of the Google Earth and Maps
- ျမန္မာအေလာင္း (၂၂) ေလာင္းကို ထုိင္းေရပိုင္နက္တြင္ ...
- The 10 best downloads of 2007
- 2550 ธุรกิจประมงสุดอ่วม แห่ทิ้งเรือขึ้นฝั่งหนีขาดทุน
- လူကိုကူးစက္မႈျဖစ္သျဖင့္ ၾကက္သားစားသံုးမႈေလ်ာ့
- 10 Best Firefox Extensions of 2007
- မတည္မညိမ္ ထုိင္းႏုိင္ငံေရး၊ ျမန္မာျပည္လုိ တစ္ခါ အ႐...
- Future of Maine Aquaculture Looks Bright
- เลี้ยงหอยนางรม ที่สุขสำราญ ระนอง
- တရုတ္စီးပြား အင္အားထင္ သေလာက္ မႀကီးပါ
- Trade clampdown reported at Mae Sot border bridge
- โทรศัพท์และอีเมล์ถูกนำมาใช้บอกเลิกคนรัก
- กูเกิล บริษัทน่าทำงานที่สุดในปี 2007 - Fortune
- What Do Venture Capitalists Know?
- ဂ်ပန္သိပၸံပညာရွင္မ်ားက ေၾကာင္ကိုမေၾကာက္ေသာ ၾကြက္မ်...
- သစ္ေတာတို့လည္း မစိမ္းစိုေတာၿပီ
- *ျမန္မာ့ငါးျမစ္ခ်င္းမ်ား ျပည္ပေစ်းကြက္တြင္ မ်က္ႏွာ...
- เคล็ดลับภูมิไม่แพ้
- Strategic IT Management
- ASEAN Foundation - AIT Scholarship
- Burma Comparisons
- พม่าแฉจ่าย 9 แสนจั๊ตลอบเข้าเมืองระนอง ก่อนผ่านไปมา...
- ျမန္မာႏိုင္ငံတြင္း ၾကက္ငွက္တုတ္ေကြးေရာဂါ ပထမဆံုး လ...
- ျမန္မာႏိုင္ငံကို ျဖတ္သန္းဆက္သြယ္ မည္႕ အျပည္ျပည္ဆို...
- ျမန္မာႏိုင္ငံကို ျဖတ္သန္းဆက္သြယ္ မည္႕ အျပည္ျပည္ဆို...
- คำยอดนิยมปี 2007 โดย Google และ Yahoo
- Reader and Talk are Friends!
- မုန္တိုင္းသင့္ခဲ့သည့္ ဆန္တာဘန္းလမုေတာႀကီး ျပဳစုပ်ဳ...
- คอมพิวเตอร์ตกรุ่นแถมยังชำรุดซ่อมไม่ได้ ทำไงดี
- อำเภอเมืองระนองมอบเลข 13 หลักให้คนไทย 53 คน
- ျမဝတီကုန္သြယ္ေရးဇုန္ - ရန္ကုန္ႏွင့္ အနီးဆံုး အေရ့ွ...
- แก่นของ VI
- Zawgyi Unicode, VOA and RSS
- ေဒၚလာငွက္မ်ား ဘယ္မွာနားပါ့မယ္
- ဂ်ပန္တြင္ အႀကီးမားဆံုး တရားမ၀င္ေငႊလႊဲမႈျဖင့္ ျမန္မ...
- ၂ဝဝ၆-၂ဝဝ၇ ဘ႑ာေရးႏွစ္ရဲ႔ ျမန္မာျပည္၏ ႏိုင္ငံျခားရင္...
- ဆီအုန္းဧကတစ္သိန္းခြဲ မေလးရွားကုမၸဏီလာစိုက္မည္
- ကဏန္းေပ်ာ့ ေမြးျမဴမႈ ပုိမုိ တြင္က်ယ္လာဖြယ္ရွိ
- พม่าขอไทยตรวจสอบจนท.รีดไถเงิน'เกาะสอง'
- ကုိလုိနီေခတ္ သခင္ေအာင္ဆန္း၏ လြပ္လပ္ေရးလုပ္ငန္းစဥ္ ...
- ตามหาความเป็นไทยใหญ่ที่เปียงหลวง
- ถนนสู่ประชาธิปไตยในพม่าหลังการประท้วงใหญ่ ทางออกหร...
- ในหลวงนักเศรษฐศาสตร์
- အာရွစီးပြားေရးနဲ႔ ပတ္သက္တဲ့ ADB အစီရင္ခံစာ
- ေဒါင္းစုတ္(ဘြတ္ကလံု)ငွက္မ်ား ရွား ပါး
-
▼
December
(53)
Visitors
Visitor Link
Misc Synopsis
- ကံေကာင္းေသာ လူငယ္မ်ားသည္ သူ႔ဘဝတြင္ "ဘယ္စာကိုဖတ္၊ ဘယ္စာကို မဖတ္နဲ႔" ဟူေသာ အၾကံေပးခ်က္မ်ိဳး ရ႐ွိခဲ့၏။ ကံဆိုးေသာ လူငယ္မ်ားသည္ ဘာအၾကံေပးခ်က္မွ မရွိပါ။ ထိုအမ်ိဳးအစားထဲမွ စိတ္ဓာတ္အင္အား ျပည့္စံုေသာ လူငယ္မ်ား၊ ႀကိဳးစားလိုေသာ လူငယ္မ်ား၊ ႐ွာေဖြစူးစမ္းလိုေသာ လူငယ္မ်ားသည္ မည္သူ႔အကူအညီမွ် မပါဝင္ဘဲ မိမိတို႔ဘာသာ သင့္ေတာ္ရာရာကို ေ႐ြးခ်ယ္ သြားတတ္ၾကသည္။ တခ်ိဳ႔ကေတာ့ သူတို႔ ဘာကိုလိုခ်င္မွန္း သူတို႔ကိုယ္တိုင္ မသိသူမ်ား ျဖစ္ၾကပါသည္။ ေလာကတြင္ မိမိဘာ လိုခ်င္သည္ဟု မွန္ကန္စြာသိ၍ မိမိ လိုခ်င္ေသာ အရာကို ရေအာင္ယူႏိုင္ေသာ လူငယ္မ်ားလည္း ႐ွိၾကသည္။ လူတေယာက္ မိမိဘဝတြင္ ဘာလိုခ်င္သည္ ဟု အတိအက် သိလာ ရန္ စာအုပ္မ်ားစြာက တြန္းအားေပးႏိုင္သည္ဟု ကြၽန္မ ထင္ပါသည္။ ဂ်ဴး
- ဂန္ဘာရီနဲ ့နအဖ တို ့ရဲ ့ကေလးကလား လုပ္ရပ္မ်ား - နဖအ က ေဒၚစုကို ေနအိမ္မွာအက်ယ္ခ်ဳပ္ခ်ထားတာ တကမၻာလံုးသိပါတယ္။ ဘယ္လိုေနအိမ္မွာအက်ယ္ခ်ဳပ္ခ်ထားလဲဆိုရင္ အိမ္ေရွ ့တခါးကိုေသာ့နဲ ့ခတ္ထားတယ္။ ေဒၚစုျခံ၀န္းထဲမွာ စစ္တပ္ခ်ထားတယ္။ ေဒၚစုကို ေတြ ့ခ်င္တယ္တဲ့သူေတြက သူတို ့က ၀င္ေစဆိုတဲ့အမိန္ ့ရမွာ၀င္လို ့ရတယ္။ ေဒၚစု ရဲ က်မာေရးကို တာ၀န္ခံထားတဲ့ေဒါက္တာတင္မ်ိဳး၀င္းေတာင္ ၀င္ေတြ ့ျခင္တိုင္း၀င္ေတြ ့လို ့မရဘူး။ သန္းေရြ ရဲ ့ခြင့္ျပဳခ်က္ရမွေဒၚစုကိုေတြ ့ခြင့္ရတယ္။ ေဒၚစုေရွ ေနက ေဒၚစုကို ေတြ ့ျခင္တိုင္းေတြ ့လို ့မရဘူး။ အန္အဲလ္ဒီစီအီစီ ဆိုရင္လည္း ေဒၚစုကို အိမ္မွာေတာင္ေတြ ့ခြင့္မရၾကဘူး။ ဒီလို အေျခအေနမ်ိဳးမွာ ဂန္ဘာရီ ကိုယ္စားလွယ္နဲ ့ နအဖ ကိုယ္စားလွယ္က ေဒၚစုအိမ္ေရွ ့ကိုသြားျပီး ေဒၚေအာင္ဆန္းစုၾကည္ ဂန္ ဘာရီက ေတြ ့ျခင္လို ့ပါလို ့ အိမ္ေရွ ့ကေန ေလာစပီကာနဲ ့သြားေအာ္ေနတာ အေတာ့ကို ကေလးကလားဆန္ျပီ အရူးထတဲ့လုပ္ရပ္ျဖစ္ပါတယ္။ က်ေနာ္ေမးျခင္တာက သူတို ့မွာ ေဒၚစုအိမ္ကိုခတ္ထားတဲ့ေသာ့ရိွရဲ ့သားနဲ ့ဖြင့္ျပီး ၀င္သြားလိုက္ၾကပါလား။ အိမ္ကိုေသာ့ခတ္ထားတဲ့သူက တခါးဖြင့္ေပးပါလို ့ေအာ္ေနတာကေတာ့ အေတာကိုညဏ္နည္းလွၾကပါတယ္။ Ko Moe Thee Blog
- အဲဒီသ၀ဏ္လႊာနဲ႔ ပတ္သက္ၿပီး မေလးရွား၀န္ႀကီးခ်ဳပ္ ဘာဒါ၀ီက ျမန္မာႏိုင္ငံအေနနဲ႔ အာဆီယံရဲ႕ ျပည္တြင္း ေရး မစြက္ဖက္ေရးမူကို အကာအကြယ္မယူသင့္ဘူးလို႔ မိန္႔ခြန္းမွာ ထည့္သြင္းေျပာၾကားသြားပါတယ္။ ဒါ့အျပင္ အာဆီယံရဲ႕ အဓိကအဖြဲ႔၀င္ႏိုင္ငံျဖစ္တဲ့ မေလးရွားႏိုင္ငံက အဖြဲ႔ႀကီးရဲ႕ အဓိကမူတရပ္ျဖစ္တဲ့ ျပည္တြင္းေရး မစြက္ဖက္ေရးမူကို ျပန္လည္အနက္အဓိပၸၸၸၸၸါယ္ ဖြင့္ဆိုသင့္ၿပီလို႔ ေျပာၾကားခဲ့ပါတယ္။ / Dr.LwanSwe
- ရွစ္ေလးလံုး အေရးအခင္းနဲ႔အတူ နာဂစ္မုန္တိုင္းအေပၚ စစ္အစိုးရ တံု႔ျပန္မႈဟာ ျမန္မာႏိုင္ငံတြင္း မွာရွိတဲ့ အႀကီးမားဆံုး လူ႔အခြင့္အေရး ခ်ိဳးေဖာက္မႈေတြရဲ႕ “နိဂံုး” ျဖစ္မယ္လုိ႔ လူအမ်ားစုက ေမွ်ာ္ လင့္ထားၾကတယ္။ ဒါေပမယ့္ နိဂံုးျဖစ္ျဖစ္၊ မျဖစ္ျဖစ္ ဒီတႀကိမ္ေတာ့ ျမန္မာ့အေရးဟာ ျမန္မာ ႏိုင္ငံသားေတြ (“၈၈မ်ိဳးဆက္” ေက်ာင္းသားေတြဟာ ရဲ၀ံ့စြာနဲ႔ ေရွ႕ကေန ဦးေဆာင္ေနတယ္) တင္ မကေတာ့ဘူး ကုလသမဂၢ လံုျခံဳေရးေကာင္စီနဲ႔ ျမန္မာႏိုင္ငံရဲ႕ အာရွအိမ္နီးခ်င္းႏိုင္ငံေတြရဲ႕ ႏိုင္ငံေရး ဆႏၵေပၚမွာလည္း မူတည္ေနပါတယ္။ အႏွစ္ (၂၀) ဆိုတာ ရွည္လ်ားတဲ့ အခ်ိန္ကာလ ျဖစ္ေပမယ့္ သိပ္ေတာ့ ေနာက္မက်ေသးပါဘူး။ / New Era Journal
- Failed States Index 2008 - အားလံုးေပါင္း ၁၂ ခုရွိတဲ့ စံညႊန္းေတြထဲမွာ ျမန္မာႏိုင္ငံဟာ လူ႔အခြင့္အေရးစံညႊန္းမွာ အဖိႏွိပ္ခံရဆံုး တဖက္စြန္းမွာေရာက္ေနၿပီး ျပည္ပစြက္ဖက္မႈမွာေတာ့ အေစာကေရးသလို အနည္းဆံုးပါ၊ ဒီႏွစ္ခုက အမ်ားဆံုး နဲ႔ အနည္းဆံုး အစြန္းႏွစ္ဖက္ ေရာက္ေနတာကလြဲလို႔ က်န္တာေတြက ထိပ္ဆံုးမေရာက္တေရာက္မွာ။ ၂၀၀၅ တုန္းက ထိပ္ဆံုး ၂၀ ထဲမွာ ျမန္မာမပါဘူး၊ ၂၀၀၆ က်ေတာ့ နံပါတ္ ၁၈ နဲ႔ အေရွ႔တက္လာတယ္၊ ၂၀၀၇ မွာ အဆင့္ ၁၄၊ ေဟာ၊ အခု ၂၀၀၈ မွာ အဆင့္ ၁၂ ျဖစ္သြားၿပီ။ ဒီလို တႏိုင္ငံလံုးခ်ီၿပီး ညံ့ဖ်င္းေနတာ ဦးေဆာင္လမ္းျပေနတဲ့ေခါင္းေဆာင္ တာဝန္မကင္းဘူး၊ ဒါေၾကာင့္ ႏိုင္ငံေတြစာရင္းအျပင္ ေခါင္းေဆာင္ေတြရဲ့ စာရင္းကိုလည္း ျပဳစုထုတ္ျပန္ထားတယ္။ Degolar
0 comments:
Post a Comment