Ref :www.doae.go.th
ปัจจุบันแม้ว่าจะมีปุ๋ยสำเร็จรูปวางจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดทั่วๆไปแต่มักจะมีราคาแพง และขาดแคลนอยู่เป็นประจำโดยเฉพาะปุ๋ยเคมีสูตรที่มีการใช้มากๆ เช่น ปุ๋ยเคมี สูตร 16 – 20 – 0, 16 – 16 – 8, 15 – 15 - 15, 13 – 13 - 21 และ12 – 24 - 12 เป็นต้น ดังนั้นการผสมปุ๋ยใช้เองของเกษตรกรเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้ และยังทำให้ประหยัดเงินได้อีก 10 - 20 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เวลาและแรงงานในครัวเรือน ให้เป็นประโยชน์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
การผสมปุ๋ยใช้เอง คือ การที่เกษตรกรนำเอาแม่ปุ๋ยชนิดต่างๆมาผสมกันเพื่อให้ได้สูตรตามที่ต้องการ
ก่อนที่เกษตรกรจะผสมปุ๋ยใช้เอง ควรมีความรู้พื้นฐาน ดังต่อไปนี้
สูตรปุ๋ย หมายถึง ปริมาณธาตุอาหารไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P2O5) และโพแทสเซียม(K2O)
ที่มีอยู่ในปุ๋ยคิดเป็นร้อยละโดยน้ำหนักของปุ๋ยทั้งหมดและจะบอกเรียงกันตามลำดับ N-P2 O5 –K2 O เช่น ปุ๋ยสูตร 13-13-21 แสดงว่าปุ๋ยนี้มีธาตุไนโตรเจนร้อยละ 13 ฟอสฟอรัส ร้อยละ 13 และโพแทสเซียมร้อยละ 21 ของปริมาณน้ำหนักตามลำดับ หรืออาจกล่าวได้ว่าปุ๋ยสูตร 13-13-21 จำนวน 100 กิโลกรัมมีธาตุไนโตรเจน จำนวน 13 กิโลกรัม มีธาตุฟอสฟอรัส จำนวน 13 กิโลกรัม และธาตุโพแทสเซียม จำนวน 21 กิโลกรัม
เรโชปุ๋ย หมายถึง ค่าหรือข้อมูลที่บอกสัดส่วนระหว่างปริมาณของธาตุอาหาร ไนโตรเจน(N)
ฟอสฟอรัส(P2O5 ) โพแทสเซียม(K 2 O) อยู่ในสูตรปุ๋ย เช่น ปุ๋ยสูตร 15-15-15 จะมีเรโชปุ๋ย 1:1:1 เป็นต้น
อัตราปุ๋ย หมายถึง ปริมารปุ๋ยแต่ละสูตรที่ใส่ให้กับพืชต่อพื้นที่ หนึ่งไร่ หรือต่อหนึ่งต้น หรือปริมาณปุ๋ย
ที่ใช้เป็นกรัมละลายน้ำจำนวนหนึ่งถัง เพื่อใช้รดหรือฉีดให้ทางใบของต้นพืช เช่น ปลูกข้าวใช้ปุ๋ยสูตร 16-20-0 ในนาดินเหนียว อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ หว่านรองพื้นก่อนปักดำ
แม่ปุ๋ย หมายถึง ปุ๋ยเคมีที่นำมาใช้ทำปุ๋ยผสมสูตรต่างๆ ผลิตขึ้นมา โดยมีปริมาณธาตุอาหาร
ในสูตรเข้มข้นมาก เช่น ปุ๋ยไดแอมโมเนียมฟอสเฟต (18-46-0) ปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรค์ (0-0-60) ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0)
สารตัวเติม หมายถึง สารที่ใช้ในการผสมปุ๋ย เพื่อจะเพิ่มน้ำหนักของปุ๋ยที่ผสมให้ครบร้อยของหน่วย
น้ำหนัก และจะทำให้ได้ปุ๋ยผสมสูตรที่ต้องการ เช่น ดินร่วน ทราย ขี้เลื่อย แป้ง โดโลไมท์ ซิลิก้า และลูกรัง
ขั้นตอนการผสมปุ๋ยใช้เอง
1. กำหนดประเภทและสูตรปุ๋ย : ควรจะพิจารณาว่าต้องการผสมปุ๋ยสูตรอะไรและใช้กับพืชอะไร
ให้สอดคล้องกับหลักทางวิชาการ เช่น ปุ๋ยสูตร 16-16-8 ใช้กับนาข้าว ดินทราย ปุ๋ยสูตร 16-20-0 ใช้กับนาข้าวดินเหนียว เป็นต้น และควรจะคิดด้วยว่าจะต้องใช้ปุ๋ยสูตรที่ต้องการเป็นปริมาณเท่าไร เช่น ทำนาข้าวพันธุ์ไวแสงในดินทราย จำนวน 4 ไร่ คำแนะนำทางวิชาการให้ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-8 อัตรา 25 กิโลกรัมต่อไร่ ดังนั้นต้องการใช้ปุ๋ยสูตร 16-16-8 ทั้งหมดคือ 25X4 =100 กิโลกรัม เป็นต้น
2. กำหนดชนิดของแม่ปุ๋ย : ควรมีหลักเกณฑ์การพิจารณา ดังนี้
2.1 สูตรปุ๋ยและปริมาณธาตุอาหารรวม : ต้องทราบสูตรปุ๋ยที่ต้องการ เพื่อจะดูว่ามีปริมาณ
ธาตุอาหารสูงปานกลาง หรือต่ำ และมีสัดส่วนของปริมาณธาตุอาหารเป็นอย่างไร ทั้งนี้เพื่อจะได้เลือกชนิดแม่ปุ๋ยได้อย่างถูกต้อง เช่น ปุ๋ยผสมสูตร 16-16-8 แม่ปุ๋ยที่น่าเหมาะสม ได้แก่ แม่ปุ๋ยไดแอมโมเนียมฟอสเฟต (18-46-0) ยูเรีย (46-0-0)และแม่ปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรค์ (0-0-60) , ปุ๋ยผสมสูตร 8-24-24 แม่ปุ๋ยที่เหมาะสม ได้แก่ แม่ปุ๋ยไดแอมโมเนียมฟอสเฟต (18-46-0) โมโนแอมโมเนียมฟอสเฟต (11-48-0) และแม่ปุ๋ยโพแทสเซี่ยมคลอไรค์ (0-0-60) เป็นต้น
2.2 สมบัติความเข้ากันได้ของแม่ปุ๋ย: แม่ปุ๋ยที่จะนำมาผสมกันต้องผสมกันได้ดีและไม่ทำปฏิกิริยากัน
ความเข้ากันได้ หมายถึง แม่ปุ๋ยหรือวัตถุดิบทุกชนิดที่กำหนดโดยการคำนวณไว้ตามสูตร
เมื่อนำมาผสมกันแล้วจะต้องผสมเข้ากันได้โดยไม่เกิดปฏิกิริยาที่จะทำให้ปุ๋ยที่ผลิตผลิตได้มีคุณภาพไม่เหมาะสม หรือไม่ตรงตามที่ต้องการโดยเฉพาะอย่างยิ่งความชื้นแฉะและจับตัวเป็นก้อนแข็ง สรสิทธิ์ วัชโรทยานและปิยะ ดวงพัตรา (2535) ได้ศึกษาความสามารถความเข้ากันได้ของแม่ปุ๋ยแต่ละชนิด ดังตารางที่ 1
ตารางที่ 1 แสดงความเข้ากันได้ของแม่ปุ๋ยบางชนิดเมื่อนำมาผสมกัน
2.3 ขนาดของเม็ดปุ๋ย : แม่ปุ๋ยที่ใช้ต้องมีขนาดเม็ดปุ๋ยใกล้เคียงกันและมีการกระจายขนาด
ของเม็ดปุ๋ยที่สม่ำเสมอ เพราะเมื่อนำมาผสมกันแล้วจะได้ปุ๋ยผสมที่มีคุณภาพดี ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการแยกตัวของแม่ปุ๋ยแต่ละตัว เช่น ปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรค์ (0-0-60) ชนิดเม็ด จะเหมาะสมกับการนำมาผสมปุ๋ยใช้เองมากกว่าชนิดผง เพราะว่าเมื่อนำมาผสมกับแม่ปุ๋ยชนิดอื่นมักจะตกอยู่ใต้กองและไม่เข้ากัน เป็นต้น
2.4 รูปทางเคมีของธาตุอาหารหลักในแม่ปุ๋ย : ปุ๋ยผสมที่จะผลิตออกมาใช้ต้องทราบว่า
จะนำมาใช้สำหรับพืชกลุ่มใด และควรเลือกแม่ปุ๋ยให้เหมาะสมตามหลักวิชาการ เช่น แม่ปุ๋ยไนโตรเจนที่จะนำมาใช้กับข้าวควรใช้แม่ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนในรูป แอมโมเนียมไนโตรเจน (NH 4 -N) หรืออมีดไนโตรเจน ( NH2 –N) เท่านั้น ถ้านำไปใช้กับพืชไร่สามารถใช้แม่ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนในรูป แอมโมเนียมไนโตรเจน (NH 4 -N) หรืออมีดไนโตรเจน (NH 2 -N) หรือ ไนเตรทไนโตรเจน (NO3 -N) ได้ เป็นต้น
2.5 ราคาต่อหน่วยน้ำหนักของธาตุอาหารปุ๋ย : ราคาต่อหน่วยน้ำหนักของชนิดแม่ปุ๋ย
ที่จะนำมาผสมกันควรเลือกชนิดที่มีราคาต่อหน่วยน้ำหนักต่ำที่สุด เช่น ปุ๋ยสูตร 21 – 0 - 0 ราคากระสอบละ 250 บาท กับปุ๋ยสูตร 46 – 0 - 0 ราคากระสอบละ 250 บาท เท่ากันควรเลือกใช้แม่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 เนื่องจากเมื่อคิดราคาต่อน้ำหนักธาตุอาหารที่มีอยู่ในแม่ปุ๋ยทั้งสองสูตรแล้วแม่ปุ๋ยสูตร 46 – 0 - 0 ราคากิโลกรัมละ 10.87 บาท ขณะที่แม่ปุ๋ยสูตร 21 – 0 - 0 ราคากิโลกรัมละ 23.81 บาท เป็นต้น
3. การคำนวณสูตรปุ๋ย : ปุ๋ยที่จะใช้ผสมคำนวณมาจากเปอร์เซ็นต์ธาตุไนโตรเจน ธาตุฟอสฟอรัส
และธาตุโพแทสเซียม ที่มีอยู่ในปุ๋ยผสมตามเกรดที่เราต้องการ เช่น
ตัวอย่าง ต้องการปุ๋ยสูตร 16-16-8 จำนวน 100 กิโลกรัม จะต้องใช้แม่ปุ๋ยชนิดต่างๆ อย่างละกี่กิโลกรัม
ชนิดแม่ปุ๋ยที่เหมาะสม คือ
- ไดแอมโมเนียมฟอสเฟต[18-46-0 (DAP)]
- ยูเรีย [46-0-0 (U)]
- โพแทสเซียมคลอไรค์ [0-0-60 (MOP) ]
วิธีการคำนวณ
3.1 คำนวณหาธาตุฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ (P 2 O5 ) ก่อน เนื่องจากแม่ปุ๋ยไดแอมโมเนียมฟอสเฟต
(18-46-0) มีเปอร์เซ็นต์ธาตุฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์(P2 O5~) อยู่ในปุ๋ยสูงกว่าเปอร์เซ็นต์ธาตุไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์ (N) มีวิธีคำนวณ ดังนี้
ปริมาณ P2 O5 46 กิโลกรัม ต้องใช้แม่ปุ๋ย DAP = 100 กิโลกรัม
ปริมาณ P2 O5 1 กิโลกรัม ต้องใช้แม่ปุ๋ย DAP = 100 x 1
46 กิโลกรัม
ปริมาณ P2 O5 16 กิโลกรัม ต้องใช้แม่ปุ๋ย DAP = 100 x 16
46 กิโลกรัม
= 34.78 กิโลกรัม
เพราะฉะนั้นต้องใช้แม่ปุ๋ย 18-46-0 (DAP)= 35 กิโลกรัม
3.2 คำนวณหาปริมาณไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์ (N) [ ปริมาณที่ต้องการ คือ 16 กิโลกรัม ] มีวิธีการคำนวณ ดังนี้
3.2.1 คำนวณหาปริมาณไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์ว่าติดมากับแม่ปุ๋ย DAP ,มีจำนวนเท่าไร ดังนี้
แม่ปุ๋ย DAP จำนวน 100 กิโลกรัม มีปริมาณธาตุ N = 18 กิโลกรัม
แม่ปุ๋ย DAP จำนวน 1 กิโลกรัม มีปริมาณธาตุ N = 18 X 1
100 กิโลกรัม
แม่ปุ๋ย DAP จำนวน 35 กิโลกรัม มีปริมาณธาตุ N = 18 X 35
100 กิโลกรัม
ปริมาณปุ๋ยไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์ติดมากับแม่ปุ๋ย DAP = 6.30 กิโลกรัม
3.2.2 คำนวณหาว่าปริมาณธาตุไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์ยังขาดอีกเท่าไรจากที่ต้องการ ดังนี้
ต้องการใช้ปริมาณไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์ = 16.00 กิโลกรัม
ปริมาณไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์ติดมากับปุ๋ย DAP = 6.30 กิโลกรัม
เพราะฉะนั้นยังขาดปริมาณไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์ = 9.70 กิโลกรัม
3.2.3 คำนวณหาปริมาณไนโตรเจนที่เป็นประโยชน์ที่ยังขาดจากแม่ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ดังนี้
ปริมาณธาตุไนโตรเจน 46 กิโลกรัม ต้องใช้แม่ปุ๋ยยูเรีย = 100 กิโลกรัม
ปริมาณธาตุไนโตรเจน 1 กิโลกรัม ต้องใช้แม่ปุ๋ยยูเรีย = 100 x 1
46 กิโลกรัม
ปริมาณธาตุไนโตรเจน 9.7 กิโลกรัม ต้องใช้แม่ปุ๋ยยูเรีย = 100 x 9.7
46 กิโลกรัม
=21.09 กิโลกรัม
เพราะฉะนั้นจะต้องใช้แม่ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) = 22 กิโลกรัม
3.3 คำนวณหาปริมาณธาตุโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ (K2O) [ ปริมาณที่ต้องการใช้ = 8 กิโลกรัม ] ดังนี้
ปริมาณธาตุโพแทสเซียม 60 กิโลกรัม ต้องใช้แม่ปุ๋ย MOP = 100 กิโลกรัม
ปริมาณธาตุโพแทสเซียม 1 กิโลกรัม ต้องใช้แม่ปุ๋ย MOP =100 x 1
60 กิโลกรัม
ปริมาณธาตุโพแทสเซียม 8 กิโลกรัม ต้องใช้แม่ปุ๋ย MOP = 100x8
60 กิโลกรัม
เพราะฉะนั้นต้องใช้แม่ปุ๋ย MOP (0-0-60) = 14 กิโลกรัม
3.4 คำนวณหาน้ำหนักของสารตัวเติม (Filler) ที่ต้องใช้เพิ่มให้ได้ปุ๋ยผสมสูตร 16-16-8 มีน้ำหนักครบ
จำนวน 100 กิโลกรัม ดังนี้
ปุ๋ยผสมสูตร 16-16-8 จำนวน 100 กิโลกรัม มีปริมาณน้ำหนักธาตุอาหารดังนี้
แม่ปุ๋ยสูตร18-46-0 =35 กิโลกรัม+ แม่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 = 22 กิโลกรัม + แม่ปุ๋ยสูตร
0-0-60 = 14 กิโลกรัม รวมเป็น 71 กิโลกรัม เพราะฉะนั้นจะต้องเพิ่มน้ำหนักสารตัวเติม (Filler) จำนวน 100-71 = 29 กิโลกรัม
4. เตรียมเครื่องมือผสมปุ๋ยใช้เอง อุปกรณ์ที่ควรมีไว้ผสมปุ๋ย คือ
4.1 พื้นที่สำหรับผสมปุ๋ย ควรเป็นที่ราบเรียบเสมอและแห้ง หากเป็นไปได้ควรเป็นพื้นซีเมนต์
หรือดินแน่นเรียบ
4.2 พลั่ว หรือจอบ สำหรับตักและคลุกเคล้าผสมปุ๋ย
4.3 เครื่องชั่ง ขนาด 50 กิโลกรัม เพื่อชั่งน้ำหนักของแต่ละแม่ปุ๋ย
4.4 กระสอบปุ๋ย เพื่อเอาไว้ใส่ปุ๋ยที่ผสมได้และขนไปใส่ในไร่นา
4.5 แม่ปุ๋ยเคมีชนิดต่างๆ เช่น
- ปุ๋ยไดแอมโมเนียมฟอสเฟต (18-46-0)
- ปุ๋ยโพแทสเซียมคลอไรด์ (0-0-60)
- ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0)
4.6 ตารางกำหนดน้ำหนักแม่ปุ๋ย กรณีที่ใช้ปุ๋ยสูตรทั่วๆไป (ตามรายละเอียดภาคผนวก)
5. วิธีการผสมปุ๋ยใช้เอง: ควรปฏิบัติดังนี้
5.1 เลือกสูตรและปริมาณที่ต้องการใช้ปุ๋ยนั้นๆ เช่น ต้องการใช้ปุ๋ยสูตร 16-16-8 เพื่อปลูกข้าว
ในนาดินทราย จำนวน 100 กิโลกรัม เป็นต้น
5.2 หาน้ำหนักแม่ปุ๋ยให้สอดคล้องกับสูตรและปริมาณที่ต้องการ จากตารางกำหนดน้ำหนัก
แม่ปุ๋ย หรือจากการคำนวณไว้
5.3 ชั่งน้ำหนักแม่ปุ๋ยแต่ละชนิดจากข้อ 2 เช่น ปุ๋ยสูตร 16-16-8 จำนวน 100 กิโลกรัม จะต้องใช้แม่ปุ๋ย
สูตร 18-46-0 จำนวน 35 กิโลกรัม แม่ปุ๋ยสูตร 0-0-60 จำนวน 14 กิโลกรัม และแม่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 จำนวน 22 กิโลกรัม มาผสมรวมกันเป็นต้น
5.4 นำแม่ปุ๋ยแต่ละชนิดที่ได้ชั่งน้ำหนักไว้แล้วเทลงพื้นที่เรียบและแห้ง โดยควรนำเอาแม่ปุ๋ยที่ต้องใช้
ในปริมาณที่มากที่สุดเทไว้ชั้นล่างสุด ชั้นถัดมาใช้แม่ปุ๋ยที่ต้องการปริมาณปานกลางเทลงไป แล้วชั้นสุดท้ายควรเป็นแม่ปุ๋ยที่ใช้ในปริมาณต่ำสุด ตามลำดับ
5.5 ใช้จอบและพลั่ว ผสมคลุกเคล้าแม่ปุ๋ยแต่ละชนิดในกองให้เข้ากันเป็นอย่างดี
5.6 ตักปุ๋ยผสมใส่กระสอบ เพื่อขนย้ายไปใส่ในสวนต่อไป
5.7 ใส่ปุ๋ยผสมเพาะปลูกพืชตามปกติ
ข้อดีของการผสมปุ๋ยใช้เอง
1. ประหยัดค่าใช้จ่ายลง เช่น เกษตรกรต้องการใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 จำนวน 1,000 กิโลกรัม
เมื่อผสมใช้เองจะมีต้นทุน ดังนี้ เป็นค่าแม่ปุ๋ยสูตร 18-46-0 จำนวน 330 กิโลกรัม เป็นเงิน 2,640 บาท แม่ปุ๋ยสูตร 46-0-0 จำนวน 200 กิโลกรัม เป็นเงิน 1,400 บาท และแม่ปุ๋ยสูตร 0-0-60 จำนวน 250 กิโลกรัม เป็นเงิน 1,250 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,290 บาท ดังตาราง
เลขที่
แม่ปุ๋ย
น้ำหนัก (กิโลกรัม)
ราคา (บาท/กก.)
เงิน (บาท)
1.
18-46-0
330
8.0
2,460
2.
46-0-0
200
7.0
1,400
3.
0-0-60
250
5.0
1,250
รวม
780
-
5,290
แต่ถ้าซื้อปุ๋ยเคมีสำเร็จรูปสูตร 15-15-15 จำนวน 1,000 กิโลกรัม ในท้องตลาด 8,000 บาท
เพราะฉะนั้นการผสมปุ๋ยใช้เองจะประหยัดเงินได้ จำนวนเท่ากับ 8,000-5,290 =2,710 บาทต่อ 1,000 กิโลกรัม
1. สามารถมีปุ๋ยสูตรต่างๆตามที่ต้องการใช้ได้เกือบทุกหลักสูตร
2. ตัดปัญหาเรื่องการต้องการปุ๋ยปลอม หรือปุ๋ยด้อยมาตรฐานมาใช้
3. เกษตรกรมีปุ๋ยสูตรตามที่ต้องการได้ทันเวลาใช้
ข้อจำกัดของการผสมปุ๋ยใช้เอง
1. เมื่อนำแม่ปุ๋ยมาผสมรวมกันแล้วจะชื้นง่าย และควรใช้ให้หมดภายใน 15 วัน
2. เกษตรกรต้องเสียเวลาและแรงงานเพิ่มขึ้น จาการศึกษาพบว่าการผสมปุ๋ยให้ได้สูตรต่างๆ
จำนวน 500 กิโลกรัม จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที
3. แหล่งจำหน่ายแม่ปุ๋ยเคมียังมีจำนวนน้อยและหาซื้อได้ลำบาก นอกจากนี้การกำหนดราคา
ของแม่ปุ๋ยยังขึ้นอยู่กับพ่อค้านำเข้าส่วนใหญ่
4. ความน่าใช้และความสวยงามของแม่ปุ๋ยผสมเอง มักจะด้อยกว่าปุ๋ยเคมีสำเร็จรูป
GoogleCyberSearch
Shared Items
Labels
- ႐ႊင္ျမဴးစရာ (3)
- Agri and Fishery (11)
- Art and Literature (2)
- Dhamma - Beliefs (7)
- Earth-Weather-Travel (8)
- Economy-Business-Finance (22)
- Energy (4)
- Fun/Humor (10)
- General (1)
- Health (3)
- History - Politics (11)
- Ideas - Opinions (6)
- IT (22)
- Life Style (7)
- Local (21)
- Society - Community (1)
- Technology (14)
- Travel (4)
- การเกษตร (2)
- ขำขัน (8)
- ท่องเทียว (4)
- เทคโนโลยี (11)
- เทคโนโลยี-วิทยาศาสตร์ (3)
- ธุรกิจ (4)
- บ้า้นและครอบครัว (1)
- ประวัติศาสตร์ (2)
- ปรัชญา - ธรรมะ (10)
- พม่า (11)
- พลังงาน (5)
- ระีนอง - เกาะสอง (25)
- เศรษฐกิจ (10)
- สังคม (9)
- สัตว์น้ำและอาหารทะเล (10)
- สุขภาพ - อาหาร (12)
- ကမၻာေျမ (2)
- က်န္းမာေရး (8)
- ခရီးသြားျခင္း (5)
- စားဝတ္ေနေရး (8)
- စာေပ၊ ယဥ္ေက်းမႈ (5)
- စီးပြား၊ကုန္သြယ္ (32)
- စုိက္ပ်ဳိးေရး (6)
- ဓမၼ - ဂမၺီရ (5)
- မိုးေလဝသ (1)
- ျပည္ျမန္မာ (13)
- လူမႈဘဝ (8)
- သိပၸံႏွင္႔နည္းပညာ (16)
- သီခ်င္းမ်ား (2)
- အေတြးအျမင္ (6)
- အေထြေထြ (8)
- ေဒသသတင္း (24)
- ေရလုပ္ငန္း (14)
- ႏိုင္ငံေရး (11)
Contact to Blogmaster at kawthaung@gmail.com
Vistors Stats
Wednesday, August 8, 2007
การผสมปุ๋ยใช้เอง
Labels: Agri and Fishery, การเกษตร
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Kawthaung Glimpse 2008
Blog Archive
-
▼
2007
(201)
-
▼
August
(25)
- ภาพใหญ่-ภาพเล็ก : ในเรื่องของการลงทุน
- การโทรคมนาคมไทยยังไม่เสรี (ได้ง่ายๆ)
- Megaupload Bypass - Megaupload SX adds-in
- โทรศัพท์ตรวจน้ำตาลในเลือด
- Top five reasons to buy Thai stocks
- จุดธูปกี่ดอก บอกอะไรบ้าง?
- အခြန္ေလွ်ာ့ရန္ ျမန္မာကုန္သည္မ်ားက ထိုင္းအစိုးရကို ...
- ေရထြက္ျပည္ပပုိ႔ကုန္ကဏန္း
- How to Hide a Folder Using Notepad
- พม่าผลิตปลาไหลจนล้นตลาดส่งจีนราคาหลุ่น
- เหนือฟ้ายังมีฟ้า
- เรื่องจริง ธุรกิจ Work @ Home (ทำงานทางเน็ตอยู่บ้าน)
- တ႐ုတ္ရာဘာ၀ယ္ယူသူမ်ားသည္ထုိင္းႏုိင္ငံမွ၀ယ္ယူဖြယ္ရ
- ျမန္မာႏွင့္ ထုိင္းႏုိင္ငံတို႔သည္ နယ္စပ္တစ္ေလွ်ာက္ ...
- Snapshot of နယ္စပ္ကုန္သြယ္ေရး ၂၀၀၇
- ျမန္မာ-ထုိင္းကုန္သြယ္ေရး
- การผสมปุ๋ยใช้เอง
- Asia's rich and powerful turn to ET for advice
- ျမန္မာတိုႛ ေနအိမ္
- Six Sense - Can animals predict death?
- ญี่ปุ่นโชว์ตู้เย็นหลอดไฟแอลอีดีลดแบคทีเรีย
- Thaksin to be charged over Burma loan
- ကင္းမြန္ငါးဖမ္းလုပ္ငန္း နွင့္ ကမာၻတဝန္းပူေႏြးလာမွု
- Ice Blocks Used to Chill Buildings
- Ten Burmese Migrants Dead in Ferry Sinking, ေကာ့ေသ...
-
▼
August
(25)
Visitors
Visitor Link
Misc Synopsis
- ကံေကာင္းေသာ လူငယ္မ်ားသည္ သူ႔ဘဝတြင္ "ဘယ္စာကိုဖတ္၊ ဘယ္စာကို မဖတ္နဲ႔" ဟူေသာ အၾကံေပးခ်က္မ်ိဳး ရ႐ွိခဲ့၏။ ကံဆိုးေသာ လူငယ္မ်ားသည္ ဘာအၾကံေပးခ်က္မွ မရွိပါ။ ထိုအမ်ိဳးအစားထဲမွ စိတ္ဓာတ္အင္အား ျပည့္စံုေသာ လူငယ္မ်ား၊ ႀကိဳးစားလိုေသာ လူငယ္မ်ား၊ ႐ွာေဖြစူးစမ္းလိုေသာ လူငယ္မ်ားသည္ မည္သူ႔အကူအညီမွ် မပါဝင္ဘဲ မိမိတို႔ဘာသာ သင့္ေတာ္ရာရာကို ေ႐ြးခ်ယ္ သြားတတ္ၾကသည္။ တခ်ိဳ႔ကေတာ့ သူတို႔ ဘာကိုလိုခ်င္မွန္း သူတို႔ကိုယ္တိုင္ မသိသူမ်ား ျဖစ္ၾကပါသည္။ ေလာကတြင္ မိမိဘာ လိုခ်င္သည္ဟု မွန္ကန္စြာသိ၍ မိမိ လိုခ်င္ေသာ အရာကို ရေအာင္ယူႏိုင္ေသာ လူငယ္မ်ားလည္း ႐ွိၾကသည္။ လူတေယာက္ မိမိဘဝတြင္ ဘာလိုခ်င္သည္ ဟု အတိအက် သိလာ ရန္ စာအုပ္မ်ားစြာက တြန္းအားေပးႏိုင္သည္ဟု ကြၽန္မ ထင္ပါသည္။ ဂ်ဴး
- ဂန္ဘာရီနဲ ့နအဖ တို ့ရဲ ့ကေလးကလား လုပ္ရပ္မ်ား - နဖအ က ေဒၚစုကို ေနအိမ္မွာအက်ယ္ခ်ဳပ္ခ်ထားတာ တကမၻာလံုးသိပါတယ္။ ဘယ္လိုေနအိမ္မွာအက်ယ္ခ်ဳပ္ခ်ထားလဲဆိုရင္ အိမ္ေရွ ့တခါးကိုေသာ့နဲ ့ခတ္ထားတယ္။ ေဒၚစုျခံ၀န္းထဲမွာ စစ္တပ္ခ်ထားတယ္။ ေဒၚစုကို ေတြ ့ခ်င္တယ္တဲ့သူေတြက သူတို ့က ၀င္ေစဆိုတဲ့အမိန္ ့ရမွာ၀င္လို ့ရတယ္။ ေဒၚစု ရဲ က်မာေရးကို တာ၀န္ခံထားတဲ့ေဒါက္တာတင္မ်ိဳး၀င္းေတာင္ ၀င္ေတြ ့ျခင္တိုင္း၀င္ေတြ ့လို ့မရဘူး။ သန္းေရြ ရဲ ့ခြင့္ျပဳခ်က္ရမွေဒၚစုကိုေတြ ့ခြင့္ရတယ္။ ေဒၚစုေရွ ေနက ေဒၚစုကို ေတြ ့ျခင္တိုင္းေတြ ့လို ့မရဘူး။ အန္အဲလ္ဒီစီအီစီ ဆိုရင္လည္း ေဒၚစုကို အိမ္မွာေတာင္ေတြ ့ခြင့္မရၾကဘူး။ ဒီလို အေျခအေနမ်ိဳးမွာ ဂန္ဘာရီ ကိုယ္စားလွယ္နဲ ့ နအဖ ကိုယ္စားလွယ္က ေဒၚစုအိမ္ေရွ ့ကိုသြားျပီး ေဒၚေအာင္ဆန္းစုၾကည္ ဂန္ ဘာရီက ေတြ ့ျခင္လို ့ပါလို ့ အိမ္ေရွ ့ကေန ေလာစပီကာနဲ ့သြားေအာ္ေနတာ အေတာ့ကို ကေလးကလားဆန္ျပီ အရူးထတဲ့လုပ္ရပ္ျဖစ္ပါတယ္။ က်ေနာ္ေမးျခင္တာက သူတို ့မွာ ေဒၚစုအိမ္ကိုခတ္ထားတဲ့ေသာ့ရိွရဲ ့သားနဲ ့ဖြင့္ျပီး ၀င္သြားလိုက္ၾကပါလား။ အိမ္ကိုေသာ့ခတ္ထားတဲ့သူက တခါးဖြင့္ေပးပါလို ့ေအာ္ေနတာကေတာ့ အေတာကိုညဏ္နည္းလွၾကပါတယ္။ Ko Moe Thee Blog
- အဲဒီသ၀ဏ္လႊာနဲ႔ ပတ္သက္ၿပီး မေလးရွား၀န္ႀကီးခ်ဳပ္ ဘာဒါ၀ီက ျမန္မာႏိုင္ငံအေနနဲ႔ အာဆီယံရဲ႕ ျပည္တြင္း ေရး မစြက္ဖက္ေရးမူကို အကာအကြယ္မယူသင့္ဘူးလို႔ မိန္႔ခြန္းမွာ ထည့္သြင္းေျပာၾကားသြားပါတယ္။ ဒါ့အျပင္ အာဆီယံရဲ႕ အဓိကအဖြဲ႔၀င္ႏိုင္ငံျဖစ္တဲ့ မေလးရွားႏိုင္ငံက အဖြဲ႔ႀကီးရဲ႕ အဓိကမူတရပ္ျဖစ္တဲ့ ျပည္တြင္းေရး မစြက္ဖက္ေရးမူကို ျပန္လည္အနက္အဓိပၸၸၸၸၸါယ္ ဖြင့္ဆိုသင့္ၿပီလို႔ ေျပာၾကားခဲ့ပါတယ္။ / Dr.LwanSwe
- ရွစ္ေလးလံုး အေရးအခင္းနဲ႔အတူ နာဂစ္မုန္တိုင္းအေပၚ စစ္အစိုးရ တံု႔ျပန္မႈဟာ ျမန္မာႏိုင္ငံတြင္း မွာရွိတဲ့ အႀကီးမားဆံုး လူ႔အခြင့္အေရး ခ်ိဳးေဖာက္မႈေတြရဲ႕ “နိဂံုး” ျဖစ္မယ္လုိ႔ လူအမ်ားစုက ေမွ်ာ္ လင့္ထားၾကတယ္။ ဒါေပမယ့္ နိဂံုးျဖစ္ျဖစ္၊ မျဖစ္ျဖစ္ ဒီတႀကိမ္ေတာ့ ျမန္မာ့အေရးဟာ ျမန္မာ ႏိုင္ငံသားေတြ (“၈၈မ်ိဳးဆက္” ေက်ာင္းသားေတြဟာ ရဲ၀ံ့စြာနဲ႔ ေရွ႕ကေန ဦးေဆာင္ေနတယ္) တင္ မကေတာ့ဘူး ကုလသမဂၢ လံုျခံဳေရးေကာင္စီနဲ႔ ျမန္မာႏိုင္ငံရဲ႕ အာရွအိမ္နီးခ်င္းႏိုင္ငံေတြရဲ႕ ႏိုင္ငံေရး ဆႏၵေပၚမွာလည္း မူတည္ေနပါတယ္။ အႏွစ္ (၂၀) ဆိုတာ ရွည္လ်ားတဲ့ အခ်ိန္ကာလ ျဖစ္ေပမယ့္ သိပ္ေတာ့ ေနာက္မက်ေသးပါဘူး။ / New Era Journal
- Failed States Index 2008 - အားလံုးေပါင္း ၁၂ ခုရွိတဲ့ စံညႊန္းေတြထဲမွာ ျမန္မာႏိုင္ငံဟာ လူ႔အခြင့္အေရးစံညႊန္းမွာ အဖိႏွိပ္ခံရဆံုး တဖက္စြန္းမွာေရာက္ေနၿပီး ျပည္ပစြက္ဖက္မႈမွာေတာ့ အေစာကေရးသလို အနည္းဆံုးပါ၊ ဒီႏွစ္ခုက အမ်ားဆံုး နဲ႔ အနည္းဆံုး အစြန္းႏွစ္ဖက္ ေရာက္ေနတာကလြဲလို႔ က်န္တာေတြက ထိပ္ဆံုးမေရာက္တေရာက္မွာ။ ၂၀၀၅ တုန္းက ထိပ္ဆံုး ၂၀ ထဲမွာ ျမန္မာမပါဘူး၊ ၂၀၀၆ က်ေတာ့ နံပါတ္ ၁၈ နဲ႔ အေရွ႔တက္လာတယ္၊ ၂၀၀၇ မွာ အဆင့္ ၁၄၊ ေဟာ၊ အခု ၂၀၀၈ မွာ အဆင့္ ၁၂ ျဖစ္သြားၿပီ။ ဒီလို တႏိုင္ငံလံုးခ်ီၿပီး ညံ့ဖ်င္းေနတာ ဦးေဆာင္လမ္းျပေနတဲ့ေခါင္းေဆာင္ တာဝန္မကင္းဘူး၊ ဒါေၾကာင့္ ႏိုင္ငံေတြစာရင္းအျပင္ ေခါင္းေဆာင္ေတြရဲ့ စာရင္းကိုလည္း ျပဳစုထုတ္ျပန္ထားတယ္။ Degolar
0 comments:
Post a Comment