โลกในมุมมองของ Value Investor - ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร 14 สิงหาคม 2550 Ref : www.thaivi.com
ผมชอบลงทุนในบริษัทที่ดีเยี่ยมหรือดีที่สุดในอุตสาหกรรม ยิ่งเป็นบริษัทที่เหนือกว่าคู่แข่งมากประเภทที่เรียกว่า Dominant Firm หรือบริษัทที่สามารถ "ครอบงำ" อุตสาหกรรมหรือคู่แข่งอื่น ๆ ได้ ผมก็จะยิ่งชอบ เพราะบริษัทประเภทนี้จะมีความสามารถในการแข่งขันสูง มีกำไรที่ดี ความเสี่ยงทางธุรกิจจะต่ำ และถ้าบริษัทมีการเติบโตที่ดีและมีราคาหุ้นที่ถูกด้วยแล้วละก็ การซื้อหุ้นดังกล่าวแล้วถือเก็บไว้ยาวนานก็มักจะให้ผลตอบแทนที่ดีเยี่ยมโดยที่เราแทบไม่ต้องทำอะไรเลย
แต่การเป็นบริษัทที่โดดเด่นแทบจะสามารถครอบงำธุรกิจได้นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัทจะไม่มีความเสี่ยงเลย บริษัทอาจจะไม่มีหรือมีการคุกคามจากคู่แข่งน้อยมากเพราะศักยภาพทางธุรกิจของคู่แข่งอาจจะไม่สามารถเทียบกับบริษัทได้เลย แต่บริษัทอาจจะมีการคุกคามจาก "รัฐ" ทั้งในทางตรงและทางอ้อมที่ทำให้ยอดขายและ/หรือกำไรของบริษัท ถดถอยลงซึ่งจะทำให้มูลค่าของหุ้นลดลงได้ ดังนั้น คนที่ลงทุนในหุ้นประเภท Dominant Firm จะต้องคอยติดตามดูว่าบริษัทอาจจะกำลังโดน "อำนาจรัฐ" เล่นงานหรือเปล่ามากยิ่งกว่าการคุกคามจากคู่แข่ง
อำนาจรัฐนั้นมาได้จากหลาย ๆ ทางเช่น ผ่านทางกฎหมายต่อต้านการผูกขาด กฎหมายควบคุมราคาสินค้า กฎหมายเกี่ยวกับอาหารและยา กฎหมายเกี่ยวกับการค้าปลีกค้าส่ง กฎหมายผังเมือง กฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณาและเผยแพร่ข่าวสาร เรื่องของการให้สัมปทานแก่เอกชน และอื่น ๆ อีกร้อยแปด การบังคับใช้กฎหมายเหล่านั้น บางครั้งก็เป็นเรื่องที่ยุติธรรมและมีเหตุผลเพื่อปกป้องผู้บริโภคและสังคมโดยรวม แต่บ่อย ๆ ครั้งก็เป็นสิ่งที่ไม่ใคร่จะมีเหตุผลที่ดีนักและขัดกับแนวปฏิบัติสากล ซึ่งทำให้บางครั้งเราไม่สามารถมั่นใจได้ว่าความเสี่ยงของบริษัทที่เราวิเคราะห์นั้นใกล้เคียงกับความเป็นจริงหรือเปล่า เพราะเราวิเคราะห์ได้เฉพาะสิ่งที่เป็นเหตุเป็นผลและมีแนวปฏิบัติในระดับสากลเท่านั้น
ลองมาดูเรื่องของการคุกคามบริษัท Dominant Firm ในต่างประเทศก่อนที่จะพูดถึงกิจการในประเทศไทย ตัวอย่างเช่นในกรณีของ ไมโครซอฟท์ นี่คือบริษัทที่ครอบงำโปรแกรมควบคุมคอมพิวเตอร์กว่า 90% ทั่วโลก ไมโครซอฟท์ถูกรัฐบาลในหลายประเทศโดยเฉพาะในยุโรปเล่นงานในหลาย ๆ เรื่องส่วนใหญ่จะผ่านกฎหมายต่อต้านการผูกขาด อีกกรณีหนึ่งก็คือโค๊กซึ่งมีฐานะทางการตลาดที่โดดเด่นทั่วโลก แต่ก็ถูกต่อต้านเกือบทุกแห่งเช่นเดียวกันโดยส่วนใหญ่เน้นไปที่การถูกโจมตีว่าเป็นเครื่องดื่มที่ทำลายสุขภาพ ดังนั้นจึงถูกห้ามขายในสถานที่ต่าง ๆ เช่นตามโรงเรียนเป็นต้น
ในเมืองไทยเองนั้น ผมคิดว่าการคุกคามจากรัฐมีค่อนข้างมาก และบ่อยครั้งผมยังไม่ใคร่เห็นเหตุผลที่ดี ลองไล่ดูเรื่องที่เคยเป็นข่าวและเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่แล้วเป็นปกติ เริ่มจากเรื่องแรกที่เกิดขึ้นเป็นประจำก็คือ การควบคุมราคาของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งในความเห็นผมคิดว่ารายชื่อของสินค้าที่ต้องดูแลและควบคุมนั้นดูเหมือนว่าจะค่อนข้างเก่าและเกิดขึ้นนานมากสมัยที่สังคมไทยยังเป็นสังคมที่ "ขาดแคลน" สินค้าอุปโภคบริโภคเนื่องจากเรายังไม่สามารถผลิตได้เพียงพอและมีผู้ขายสินค้าน้อยราย ดังนั้นเราจึงมักจะรู้สึกว่ามีรายชื่อสินค้า "แปลก ๆ" ที่ทางการต้องดูแล จับตามองหรือควบคุม ในขณะที่ในปัจจุบันนี้ ผมคิดว่าเมืองไทยมีการผลิตและขายสินค้าจำเป็นและไม่จำเป็นเกือบทุกชนิดมากเกินพอที่ทำให้เราแทบไม่จำเป็นต้องควบคุมราคาสินค้าเลย เพราะตลาดจะเป็นคนที่กำหนดราคาสินค้าที่พ่อค้าจะขายได้
ช่วงระยะหลัง ๆ โดยเฉพาะที่มีกระแสของการ "ต่อต้านทุนนิยมและต่างชาติ" เราก็เริ่มเห็นอำนาจรัฐที่จะเริ่มคุกคามบริษัทที่มีอำนาจทางการตลาดสูง เช่นในกลุ่มของการค้าปลีกสมัยใหม่หรือ Modern Trade ซึ่งนอกจากจะชะลอการขยายตัวแล้วก็ยังพยายามกำหนดกฎเกณฑ์การตั้งราคาซื้อและขายสินค้าเพื่อลดอำนาจทางการตลาดหรือกำไรของกิจการที่โดดเด่นเหล่านั้น
การแทรกแซงทางธุรกิจโดยอ้างหรืออิงปัญหาสังคมและสุขภาพก็เริ่มมีมากขึ้นและนี่ก็เป็นการคุกคามที่เรามักจะคาดไม่ถึงเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น มีความพยายามที่จะกำหนดเวลาในการออกอากาศรายการทีวีตามการจัดเรทรายการต่าง ๆ ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงรายได้และกำไรของสถานีคงลดน้อยลง มีการพูดถึงการควบคุมการโฆษณาขนมสำหรับเด็กเพราะเห็นว่าเด็กปัจจุบันมีปัญหาโรคอ้วน คนที่เสนอความคิดเองคงคิดว่าถ้าลดการโฆษณาลงจะทำให้เด็กไทยอ้วนน้อยลง แต่ที่น่าทึ่งมากกว่าก็คือ มีข่าวเรื่องสุขภาพกับการกินเรื่องหนึ่งบอกว่าน่าจะมีการเก็บภาษีน้ำจิ้มสุกี้เนื่องจากเป็นอาหารรสจัดเป็นผลเสียต่อสุขภาพ คิดดูแล้ว ถ้าเรื่องนี้เป็นจริง ต่อไป เวลากินอาหารนอกบ้านคนไทยคงต้องเลิกขอน้ำปลาพริกขี้หนู เพราะถ้าร้านไหนจัดให้อาจจะต้องเสียภาษีเพิ่มเพราะเป็นน้ำจิ้มที่มีรสจัดทำลายสุขภาพ
การคุกคามต่อธุรกิจจากอำนาจรัฐนั้น แนวโน้มมักจะเกิดสูงกว่าในช่วงที่ประเทศไม่ได้อยู่ในภาวะที่เป็นประชาธิปไตยที่มีการเลือกตั้งซึ่งทำให้คนใช้อำนาจไม่ต้องสนใจเรื่องความเห็นของประชาชนผู้ลงคะแนนเสียงมากนัก เช่นเดียวกัน ในช่วงที่รัฐบาลมีนโยบายเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม ก็มักจะมีแนวโน้มที่จะพยายามสร้างกฎเกณฑ์ควบคุมธุรกิจและเพิ่มบทบาทของรัฐโดยคิดว่านั่นเป็นวิธีที่จะจัดสรรทรัพยากรของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพกว่า ในทั้งสองกรณี บริษัทที่มีแนวโน้มที่จะถูกกระทบก็คือธุรกิจที่โดดเด่นและมีอำนาจทางการตลาดสูง และนี่คือความเสี่ยงที่สำคัญของบริษัทที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้น เวลาวิเคราะห์หุ้นโดยเฉพาะ Super Stock นั้นให้นึกถึงสุภาษิต "เหนือฟ้ายังมีฟ้า" เอาไว้ด้วย
GoogleCyberSearch
Shared Items
Labels
- ႐ႊင္ျမဴးစရာ (3)
- Agri and Fishery (11)
- Art and Literature (2)
- Dhamma - Beliefs (7)
- Earth-Weather-Travel (8)
- Economy-Business-Finance (22)
- Energy (4)
- Fun/Humor (10)
- General (1)
- Health (3)
- History - Politics (11)
- Ideas - Opinions (6)
- IT (22)
- Life Style (7)
- Local (21)
- Society - Community (1)
- Technology (14)
- Travel (4)
- การเกษตร (2)
- ขำขัน (8)
- ท่องเทียว (4)
- เทคโนโลยี (11)
- เทคโนโลยี-วิทยาศาสตร์ (3)
- ธุรกิจ (4)
- บ้า้นและครอบครัว (1)
- ประวัติศาสตร์ (2)
- ปรัชญา - ธรรมะ (10)
- พม่า (11)
- พลังงาน (5)
- ระีนอง - เกาะสอง (25)
- เศรษฐกิจ (10)
- สังคม (9)
- สัตว์น้ำและอาหารทะเล (10)
- สุขภาพ - อาหาร (12)
- ကမၻာေျမ (2)
- က်န္းမာေရး (8)
- ခရီးသြားျခင္း (5)
- စားဝတ္ေနေရး (8)
- စာေပ၊ ယဥ္ေက်းမႈ (5)
- စီးပြား၊ကုန္သြယ္ (32)
- စုိက္ပ်ဳိးေရး (6)
- ဓမၼ - ဂမၺီရ (5)
- မိုးေလဝသ (1)
- ျပည္ျမန္မာ (13)
- လူမႈဘဝ (8)
- သိပၸံႏွင္႔နည္းပညာ (16)
- သီခ်င္းမ်ား (2)
- အေတြးအျမင္ (6)
- အေထြေထြ (8)
- ေဒသသတင္း (24)
- ေရလုပ္ငန္း (14)
- ႏိုင္ငံေရး (11)
Contact to Blogmaster at kawthaung@gmail.com
Vistors Stats
Tuesday, August 14, 2007
เหนือฟ้ายังมีฟ้า
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
Kawthaung Glimpse 2008
Blog Archive
-
▼
2007
(201)
-
▼
August
(25)
- ภาพใหญ่-ภาพเล็ก : ในเรื่องของการลงทุน
- การโทรคมนาคมไทยยังไม่เสรี (ได้ง่ายๆ)
- Megaupload Bypass - Megaupload SX adds-in
- โทรศัพท์ตรวจน้ำตาลในเลือด
- Top five reasons to buy Thai stocks
- จุดธูปกี่ดอก บอกอะไรบ้าง?
- အခြန္ေလွ်ာ့ရန္ ျမန္မာကုန္သည္မ်ားက ထိုင္းအစိုးရကို ...
- ေရထြက္ျပည္ပပုိ႔ကုန္ကဏန္း
- How to Hide a Folder Using Notepad
- พม่าผลิตปลาไหลจนล้นตลาดส่งจีนราคาหลุ่น
- เหนือฟ้ายังมีฟ้า
- เรื่องจริง ธุรกิจ Work @ Home (ทำงานทางเน็ตอยู่บ้าน)
- တ႐ုတ္ရာဘာ၀ယ္ယူသူမ်ားသည္ထုိင္းႏုိင္ငံမွ၀ယ္ယူဖြယ္ရ
- ျမန္မာႏွင့္ ထုိင္းႏုိင္ငံတို႔သည္ နယ္စပ္တစ္ေလွ်ာက္ ...
- Snapshot of နယ္စပ္ကုန္သြယ္ေရး ၂၀၀၇
- ျမန္မာ-ထုိင္းကုန္သြယ္ေရး
- การผสมปุ๋ยใช้เอง
- Asia's rich and powerful turn to ET for advice
- ျမန္မာတိုႛ ေနအိမ္
- Six Sense - Can animals predict death?
- ญี่ปุ่นโชว์ตู้เย็นหลอดไฟแอลอีดีลดแบคทีเรีย
- Thaksin to be charged over Burma loan
- ကင္းမြန္ငါးဖမ္းလုပ္ငန္း နွင့္ ကမာၻတဝန္းပူေႏြးလာမွု
- Ice Blocks Used to Chill Buildings
- Ten Burmese Migrants Dead in Ferry Sinking, ေကာ့ေသ...
-
▼
August
(25)
Visitors
Visitor Link
Misc Synopsis
- ကံေကာင္းေသာ လူငယ္မ်ားသည္ သူ႔ဘဝတြင္ "ဘယ္စာကိုဖတ္၊ ဘယ္စာကို မဖတ္နဲ႔" ဟူေသာ အၾကံေပးခ်က္မ်ိဳး ရ႐ွိခဲ့၏။ ကံဆိုးေသာ လူငယ္မ်ားသည္ ဘာအၾကံေပးခ်က္မွ မရွိပါ။ ထိုအမ်ိဳးအစားထဲမွ စိတ္ဓာတ္အင္အား ျပည့္စံုေသာ လူငယ္မ်ား၊ ႀကိဳးစားလိုေသာ လူငယ္မ်ား၊ ႐ွာေဖြစူးစမ္းလိုေသာ လူငယ္မ်ားသည္ မည္သူ႔အကူအညီမွ် မပါဝင္ဘဲ မိမိတို႔ဘာသာ သင့္ေတာ္ရာရာကို ေ႐ြးခ်ယ္ သြားတတ္ၾကသည္။ တခ်ိဳ႔ကေတာ့ သူတို႔ ဘာကိုလိုခ်င္မွန္း သူတို႔ကိုယ္တိုင္ မသိသူမ်ား ျဖစ္ၾကပါသည္။ ေလာကတြင္ မိမိဘာ လိုခ်င္သည္ဟု မွန္ကန္စြာသိ၍ မိမိ လိုခ်င္ေသာ အရာကို ရေအာင္ယူႏိုင္ေသာ လူငယ္မ်ားလည္း ႐ွိၾကသည္။ လူတေယာက္ မိမိဘဝတြင္ ဘာလိုခ်င္သည္ ဟု အတိအက် သိလာ ရန္ စာအုပ္မ်ားစြာက တြန္းအားေပးႏိုင္သည္ဟု ကြၽန္မ ထင္ပါသည္။ ဂ်ဴး
- ဂန္ဘာရီနဲ ့နအဖ တို ့ရဲ ့ကေလးကလား လုပ္ရပ္မ်ား - နဖအ က ေဒၚစုကို ေနအိမ္မွာအက်ယ္ခ်ဳပ္ခ်ထားတာ တကမၻာလံုးသိပါတယ္။ ဘယ္လိုေနအိမ္မွာအက်ယ္ခ်ဳပ္ခ်ထားလဲဆိုရင္ အိမ္ေရွ ့တခါးကိုေသာ့နဲ ့ခတ္ထားတယ္။ ေဒၚစုျခံ၀န္းထဲမွာ စစ္တပ္ခ်ထားတယ္။ ေဒၚစုကို ေတြ ့ခ်င္တယ္တဲ့သူေတြက သူတို ့က ၀င္ေစဆိုတဲ့အမိန္ ့ရမွာ၀င္လို ့ရတယ္။ ေဒၚစု ရဲ က်မာေရးကို တာ၀န္ခံထားတဲ့ေဒါက္တာတင္မ်ိဳး၀င္းေတာင္ ၀င္ေတြ ့ျခင္တိုင္း၀င္ေတြ ့လို ့မရဘူး။ သန္းေရြ ရဲ ့ခြင့္ျပဳခ်က္ရမွေဒၚစုကိုေတြ ့ခြင့္ရတယ္။ ေဒၚစုေရွ ေနက ေဒၚစုကို ေတြ ့ျခင္တိုင္းေတြ ့လို ့မရဘူး။ အန္အဲလ္ဒီစီအီစီ ဆိုရင္လည္း ေဒၚစုကို အိမ္မွာေတာင္ေတြ ့ခြင့္မရၾကဘူး။ ဒီလို အေျခအေနမ်ိဳးမွာ ဂန္ဘာရီ ကိုယ္စားလွယ္နဲ ့ နအဖ ကိုယ္စားလွယ္က ေဒၚစုအိမ္ေရွ ့ကိုသြားျပီး ေဒၚေအာင္ဆန္းစုၾကည္ ဂန္ ဘာရီက ေတြ ့ျခင္လို ့ပါလို ့ အိမ္ေရွ ့ကေန ေလာစပီကာနဲ ့သြားေအာ္ေနတာ အေတာ့ကို ကေလးကလားဆန္ျပီ အရူးထတဲ့လုပ္ရပ္ျဖစ္ပါတယ္။ က်ေနာ္ေမးျခင္တာက သူတို ့မွာ ေဒၚစုအိမ္ကိုခတ္ထားတဲ့ေသာ့ရိွရဲ ့သားနဲ ့ဖြင့္ျပီး ၀င္သြားလိုက္ၾကပါလား။ အိမ္ကိုေသာ့ခတ္ထားတဲ့သူက တခါးဖြင့္ေပးပါလို ့ေအာ္ေနတာကေတာ့ အေတာကိုညဏ္နည္းလွၾကပါတယ္။ Ko Moe Thee Blog
- အဲဒီသ၀ဏ္လႊာနဲ႔ ပတ္သက္ၿပီး မေလးရွား၀န္ႀကီးခ်ဳပ္ ဘာဒါ၀ီက ျမန္မာႏိုင္ငံအေနနဲ႔ အာဆီယံရဲ႕ ျပည္တြင္း ေရး မစြက္ဖက္ေရးမူကို အကာအကြယ္မယူသင့္ဘူးလို႔ မိန္႔ခြန္းမွာ ထည့္သြင္းေျပာၾကားသြားပါတယ္။ ဒါ့အျပင္ အာဆီယံရဲ႕ အဓိကအဖြဲ႔၀င္ႏိုင္ငံျဖစ္တဲ့ မေလးရွားႏိုင္ငံက အဖြဲ႔ႀကီးရဲ႕ အဓိကမူတရပ္ျဖစ္တဲ့ ျပည္တြင္းေရး မစြက္ဖက္ေရးမူကို ျပန္လည္အနက္အဓိပၸၸၸၸၸါယ္ ဖြင့္ဆိုသင့္ၿပီလို႔ ေျပာၾကားခဲ့ပါတယ္။ / Dr.LwanSwe
- ရွစ္ေလးလံုး အေရးအခင္းနဲ႔အတူ နာဂစ္မုန္တိုင္းအေပၚ စစ္အစိုးရ တံု႔ျပန္မႈဟာ ျမန္မာႏိုင္ငံတြင္း မွာရွိတဲ့ အႀကီးမားဆံုး လူ႔အခြင့္အေရး ခ်ိဳးေဖာက္မႈေတြရဲ႕ “နိဂံုး” ျဖစ္မယ္လုိ႔ လူအမ်ားစုက ေမွ်ာ္ လင့္ထားၾကတယ္။ ဒါေပမယ့္ နိဂံုးျဖစ္ျဖစ္၊ မျဖစ္ျဖစ္ ဒီတႀကိမ္ေတာ့ ျမန္မာ့အေရးဟာ ျမန္မာ ႏိုင္ငံသားေတြ (“၈၈မ်ိဳးဆက္” ေက်ာင္းသားေတြဟာ ရဲ၀ံ့စြာနဲ႔ ေရွ႕ကေန ဦးေဆာင္ေနတယ္) တင္ မကေတာ့ဘူး ကုလသမဂၢ လံုျခံဳေရးေကာင္စီနဲ႔ ျမန္မာႏိုင္ငံရဲ႕ အာရွအိမ္နီးခ်င္းႏိုင္ငံေတြရဲ႕ ႏိုင္ငံေရး ဆႏၵေပၚမွာလည္း မူတည္ေနပါတယ္။ အႏွစ္ (၂၀) ဆိုတာ ရွည္လ်ားတဲ့ အခ်ိန္ကာလ ျဖစ္ေပမယ့္ သိပ္ေတာ့ ေနာက္မက်ေသးပါဘူး။ / New Era Journal
- Failed States Index 2008 - အားလံုးေပါင္း ၁၂ ခုရွိတဲ့ စံညႊန္းေတြထဲမွာ ျမန္မာႏိုင္ငံဟာ လူ႔အခြင့္အေရးစံညႊန္းမွာ အဖိႏွိပ္ခံရဆံုး တဖက္စြန္းမွာေရာက္ေနၿပီး ျပည္ပစြက္ဖက္မႈမွာေတာ့ အေစာကေရးသလို အနည္းဆံုးပါ၊ ဒီႏွစ္ခုက အမ်ားဆံုး နဲ႔ အနည္းဆံုး အစြန္းႏွစ္ဖက္ ေရာက္ေနတာကလြဲလို႔ က်န္တာေတြက ထိပ္ဆံုးမေရာက္တေရာက္မွာ။ ၂၀၀၅ တုန္းက ထိပ္ဆံုး ၂၀ ထဲမွာ ျမန္မာမပါဘူး၊ ၂၀၀၆ က်ေတာ့ နံပါတ္ ၁၈ နဲ႔ အေရွ႔တက္လာတယ္၊ ၂၀၀၇ မွာ အဆင့္ ၁၄၊ ေဟာ၊ အခု ၂၀၀၈ မွာ အဆင့္ ၁၂ ျဖစ္သြားၿပီ။ ဒီလို တႏိုင္ငံလံုးခ်ီၿပီး ညံ့ဖ်င္းေနတာ ဦးေဆာင္လမ္းျပေနတဲ့ေခါင္းေဆာင္ တာဝန္မကင္းဘူး၊ ဒါေၾကာင့္ ႏိုင္ငံေတြစာရင္းအျပင္ ေခါင္းေဆာင္ေတြရဲ့ စာရင္းကိုလည္း ျပဳစုထုတ္ျပန္ထားတယ္။ Degolar
0 comments:
Post a Comment