Saturday, November 10, 2007

4พิบัติภัยโหมซัด ธุรกิจเรือประมง 5,000ลำจอดสนิท

ผู้ประกอบการธุรกิจเรือประมงอ่วม เจอสารพัดปัญหารุมเร้า ทั้งราคาน้ำมันแพง ราคาสัตว์น้ำตกต่ำ ภัยธรรมชาติ ซ้ำร้ายแบงก์ ไม่ยอมปล่อย้ ต้องโร่หาเงินนอกระบบเจ้ามาจุนเจอ ขณะที่พวกสายป่านสั้น ทนขาดทุนไม่ไหวแห่จอดเรือทิ้งแล้วกว่า 5,000 ลำ ฝากความหวังสุดท้าย รัฐบาลใหม่ขี่ม้าขาวมาช่วย
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 2268 08 พ.ย. - 10 พ.ย. 2550

นายทวี บุญยิ่ง ที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการประมงแห่งประเทศไทย อดีตนายกสมาคมประมงจังหวัดระนอง และเจ้าของกิจการเรือประมง เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ถึงสถานการณ์ธุรกิจประมงในขณะนี้ว่า อยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่มาก อันเป็นผลกระทบมาจากปัญหาต่างๆ โดยปัญหาหลักที่สร้างความหนักใจ
ให้กับผู้ประกอบการประมงมากที่สุด คือ ปัญหาเรื่องราคาน้ำมัน ซ้ำร้ายในขณะนี้ราคาสัตว์น้ำที่จับได้ยังมีราคาตกต่ำ เนื่องมาจากมีสัตว์น้ำจาก
ประเทศเพื่อนบ้านทั้งพม่า และอินโดนีเซียเข้ามาตีตลาด นอกจากนี้ปัญหาภัยธรรมชาติก็กำลังกลายเป็นอีกปัญหาที่เข้ามาสร้างผลกระทบต่อ
ผู้ประกอบการประมงเช่นกัน

ขณะนี้เรือประมงทุกลำที่ออกไปจับปลาต่างประสบปัญหาขาดทุนจนไม่สามารถที่จะดำเนินกิจการต่อไปไหว ซึ่งผู้ประกอบการหลายรายพยายามที่จะหาเงินทุนเข้ามาเพื่อช่วยประคับประคองกิจการให้ดำรงต่อไปได้ แต่ปรากฏว่าปัญหาคือทางธนาคารจะไม่ปล่อย้ให้กับผู้ประกอบการประมง เนื่องจากผลประกอบการของผู้ประกอบการแต่ละราย ต่างอยู่ในภาวะที่ขาดทุน จนทำให้ผู้ประกอบการต้องหาเงินทุนจากนอกระบบเข้ามาช่วยประคับประคองสถานภาพ

จากการที่มีการประเมินในตอนนี้คาดว่า มีผู้ประกอบการประมง โดยเฉพาะผู้ประกอบการประมงขนาดเล็กและขนาดกลางเข้าไป้เงินนอกระบบแล้วกว่า 2,000-3,000 ล้านบาท ซึ่งตามความเห็นของตนคิดว่าทางรัฐบาลน่าจะมีแนวทางในการช่วยเหลือให้เป็นรูปธรรม นอกจากเรื่องของน้ำมันม่วง หรือน้ำมันเขียวแต่อย่างเดียว แต่อาจจะมีกองทุนเกี่ยวกับการประมง เพื่อจะได้เข้ามาช่วยเหลือ และผู้ประกอบการประมงจะได้มีเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ

นายทวี กล่าวต่อว่า จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการประมงที่
ไม่สามารถทนแบกรับกับภาวะค่าต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นได้อีกต่อไปไหว ได้ทยอยนำเรือเข้ามาจอดแล้วกว่า 500 ลำ จากจำนวนเรือประมงที่จับปลาในน่านน้ำพื้นที่จังหวัดระนองที่มีกว่า 3,000 ลำ และทั่วประเทศขณะนี้ทราบว่า มีผู้ประกอบการประมงนำเรือเข้ามาจอดแล้วไม่ต่ำกว่า 5,000 ลำจากจำนวนเรือประมงทั้งขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณ 50,000 ลำ สำหรับในส่วนของจังหวัดระนองที่ยังมีสัตว์น้ำวางจำหน่าย พบว่ากว่า 60% มาจากเรือประมงของพม่า ที่นำปลาเข้ามาขายยังฝั่งไทย เพราะได้ราคาดีกว่า ส่วนสัตว์น้ำที่จับได้จากเรือประมงไทยมีน้อยมาก โดยตอนนี้ผู้ประกอบการประมงต่างรอความหวังกับรัฐบาลชุดใหม่
ที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์ที่เกิดขึ้น

ด้านนายประพร เอกอุรุ นายกสมาคมประมงจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ตอนนี้เรือประมงในจังหวัดสงขลากว่า 7,600 ลำ ไม่สามารถทนแบกรับกับภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยเฉพาะต้นทุนราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นมานานถึง 14 เดือนอีกต่อไปไหว โดยเฉพาะเรือประมงขนาดเล็กต่างประสบปัญหาขาดทุนกว่าเดือนละ 60,000 บาท เรือประมงขนาดใหญ่ขาดทุนเดือนละไม่ต่ำกว่า 150,000-160,000 บาท ทำให้ขณะนี้เรือประมงทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่จำต้องหยุดกิจการไปแล้วประมาณ 3,400 ลำ ซึ่งการแก้ปัญหาที่ผ่านมาทางสมาคมประมง พยายามประสานไปยังสมาคมประมงแห่งประเทศไทยเพื่อขอให้รัฐบาลหาแนวทางในการช่วยเหลือ แต่ปรากฏว่าผู้ประกอบประมงไม่เคยได้รับการดูแลจากรัฐบาลแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้ความหวังสุดท้ายอยู่ที่รัฐบาลชุดใหม่หลังการเลือกตั้ง ที่หวังว่าจะช่วยเข้ามาดูแลปัญหาของชาวประมงบ้าง ซึ่งตอนนี้ถือได้ว่าอยู่ในช่วงที่วิกฤติที่สุด.

0 comments:

Template by : kendhin x-template.blogspot.com