Thursday, July 31, 2008

Airline passenger held over gun possession at Kawthaung

Jul 31, 2008 (DVB)

A woman was apprehended at Kawthaung airport in Tenasserim division at 9am today after she was found to be in possession of a gun, according to an airport employee.

The woman, who was said to be in her 40s, was due to travel with Air Mandalay from Kawthaung to Tavoy, the division's capital.

She was detained by Kawthaung authorities and is currently being questioned.

Air Mandalay and Kawthaung police station were unavailable for comment.

Reporting by Naw Say Phaw

Read More......

Potjaman Guilty : The Beginning of the End?

via Bangkok Pundit by Bangkok Pundit on 7/30/08

Bangkok Post:
In a politically-loaded ruling, Criminal Court on Thursday found Pojaman Shinawatra - wife of coup-ousted premier Thaksin - guilty of tax evasion in a 1997 share transaction, court official said.

The heavily-guarded court, surrounded by some 2,000 Thaksin-supporters holding red roses, sentenced Pojaman to three years in jail for avoiding a tax bite amounting to 546 million baht (16.3 million dollars) on a share transfer to her step-brother Bannapot Damapong and her secretary Karnchanapa Honghern in 1997.

Bannapot was also sentenced to three years in jail and Karnchanapa to two years.

Thaksin and the couple's three children sat stony-faced throughout the ruling at the Bangkok court which was guarded by some 500 police. Pojaman had pleaded not guilty to the charge of tax evasion, claiming that the 738 million baht (22 million dollars) share transfer of Shinawatra Computer and Communications stock was a gift, not a business transaction.

The court said it had decided on a heavy sentence because both Pojaman and Bannapot were well-known public figures with responsibility to society.

BP: The Nation has more details on the decision.

This case always seemed to be the more substantive legal case compared with the Rachadphisek case or the lottery case so the guilty verdict is not surprising although I question the rationale for the length of sentence and whether suddenly this will now be the standard applied to all "well-known public figures".

If the defendants can appeal, they might get it below two years and hence can qualify for a suspended sentence - the sentence range is a "jail sentence of between three months and seven years" although this is up to the court's disrection. Thai Rath reports the Court as saying for those who dislike verdicts, they can appeal (สามารถใช้สิทธิ์อุทธรณ์) and The Manager has a quote from a Thaksin lawyer saying that he has applied for bail for all 3 and they will appeal. The screws tighten.

Read More......

Wednesday, July 30, 2008

Burma’s Fishery Industry near Standstill

via MSMA by makutarama on 7/30/08
30-07-2008

A motorized canoe passes by fishing boats anchored in the middle of the Rangoon river. (Photo:AP)
The Burmese offshore fishing industry is at a near standstill because of high fuel prices and a shortage of human resources and other supplies, say sources in Rangoon.

A businessman from the fishing community said about one-fifth of the offshore fishing fleet, including trawlers and drifters, now engage in daily fishing trips.

"They can't afford to pay for diesel," he said. "A normal trip consumes about 100 barrels of diesel. A barrel of diesel is around 320,000 kyat (US $273)"

According to the Myanmar Offshore Fishing Vessel Owners Association, there are 536 registered offshore fishing vessels; about 100 vessels are now working.

"If a boat goes to sea, it will spend at least 60 million kyat, including other general expenses," said a captain of a fishing trawler. "We can catch only a small amount of fish after the cyclone, and we can't earn enough for our expense."

According to the Burmese Fisheries Department under the Ministry of Livestock and Fisheries, 2,088 offshore fishing boats were destroyed in the cyclone, 17,876 fishery workers from the Irrawaddy delta and Rangoon Division were killed, and 9,612 fishery workers are missing after the May 2-3 cyclone.

Before Nargis, Burmese offshore fishing trawlers typically caught a minimum of 1,500 baskets of fish each trip, while today's catch is around 500 baskets (one basket is 50 viss or about 81 kg).

Fish and prawns for sale in Rangoon's Ahlone wholesale fish market have decreased drastically, said one shopkeeper.

"We don't receive fish and prawns like before," he said. He said fish sell in local markets now from 3,000 kyat to 7,000 kyat a viss (equivalent to 1.26 kilograms) and prawns sell from 3,000 kyat to 15,000 kyat depending on the size. There are about 1,170 kyat to $1.

Burma has a 2,700-kilometer coastline and annually harvests around 2 million tons of sea products. More than a million tons of ocean products are exported, according to government statistics.

Burma fishery exports go mainly to China and Thailand, with smaller amounts to Japan, Bangladesh, United Arab Emirates, Malaysia, Saudi Arabia, Russia and the United Kingdom, according to a report by the Myanmar Aquaculture & Fisheries Association.

Kyi Wai - Irrwaddy

Read More......

Geoengineering - อภิมหาโปรเจคต์ เปลี่ยนฟ้าแปลงโลก (ตอนที่ 4)

via Nano in Thailand Blog (นาโน เมืองไทย) by อาจารย์นอย on 7/30/08
ก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปลดปล่อยออกมาหลังยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมตลอด 200 ปีที่ผ่านมานั้น เกิดขึ้นจากการที่มนุษย์เอาแหล่งคาร์บอนที่สะสมอยู่ใต้แผ่นดินออกมาเผาผลาญเพื่อผลิตพลังงาน ในเมื่อเรานำเอาคาร์บอนจากใต้ดินมาใช้ ทำไมเราถึงไม่อัดคาร์บอนไดออกไซด์ที่เหลือจากการเผาผลาญนั้น กลับไปอยู่ใต้โลกเหมือนเดิม ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่แค่แนวคิดหรือนิยายวิทยาศาสตร์หรอกครับ บริษัทสไลป์เนอร์ (Sleipner) แห่งนอร์เวย์ได้ดำเนินการปั๊มคาร์บอนไดออกไซด์กลับลงไปเก็บใต้ผิวโลกลึกลงไปกว่า 1 กิโลเมตร จำนวนกว่า 20,000 ตันทุกๆสัปดาห์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1996 แล้ว ซึ่งก็นับว่าคุ้มเพราะที่ประเทศนอร์เวย์นั้น ผู้ที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่บรรยากาศจะต้องเสียภาษี 50 เหรียญสหรัฐทุกๆ 1 ตัน ตอนนี้แหล่งขุดเจาะก๊าซธรรมชาติหลายๆแหล่งทั่วโลก ต่างก็สนใจที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งก๊าซในทะเลจีนใต้ ออสเตรเลีย อลาสก้า เป็นต้น คาร์บอนไดออกไซด์สามารถที่จะอัดลงไปทั้งใต้ดิน ไปเก็บในเหมืองถ่านหินที่ปิดแล้ว แหล่งแร่ใต้ดินที่เลิกใช้ แหล่งน้ำมันและก๊าซที่ดูดออกมาหมดแล้ว


อีกวิธีหนึ่งทำได้โดยการเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ไว้ใต้ท้องทะเล จะว่าไปศักยภาพของมหาสมุทรในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์นั้นมีสูงมาก ปัจจุบันนี้มหาสมุทรก็เก็บคาร์บอนไว้แล้วถึง 40,000 พันล้านตัน ในขณะที่ชั้นบรรยากาศเก็บคาร์บอนไว้เพียง 750 พันล้านตันเท่านั้น เราสามารถนำคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีทั้งหมดในชั้นบรรยากาศตอนนี้ ฝังไว้ในทะเลได้อย่างไม่มีปัญหาเลย วิธีการนั้นก็มีได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น การปั๊มคาร์บอนไดออกไซด์ลงไปใต้ทะเลลึก 3 กิโลเมตร ซึ่งภายใต้ความดันขนานนั้น คาร์บอนไดออกไซด์จะอยู่ในรูปของเหลวที่จมดิ่งที่ท้องทะเล ซึ่งจะอยู่ได้หลายพันปี เทคโนโลยีอื่นๆ เช่นการปั๊มก๊าซลงไปปล่อยใต้ทะเลในระยะที่ไม่ลึกมากนัก เช่นสักไม่เกิน 1000 เมตร ก็สามารถทำได้ แต่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะมีโอกาสปลดปล่อยกลับสู่ชั้นบรรยากาศได้

Read More......

Tuesday, July 29, 2008

10 บัญญัติ ประหยัดน้ำมัน




10 บัญญัติ ประหยัดน้ำมัน


1. ขับรถไม่เกิน 90 ก.ม./ชม.
ความเร็วสูงสุดที่กฎหมายกำหนดไว้
ทางธรรมดา 90 กม./ชม.
ทางด่วน 110 กม./ชม.
มอเตอร์เวย์ 120 กม./ชม.




2. จอดรถไว้บ้าน โดยสารสาธารณะ
ถ้าผู้ใช้รถยนต์ร้อยละ 1 จากจำนวน 5 ล้านคัน หันมาใช้บริการรถสาธารณะ ด้วยระยะทาง 48 กม./วัน ใน 1 ปี (260 วันทำงาน) จะประหยัดน้ำมัน 52 ล้านลิตร คิดเป็นค่าน้ำมัน 780 ล้านบาท



3. ไม่ขับก็ดับเครื่อง
การติดเครื่องยนต์จอดอยู่เฉยๆ เป็นเวลา 5 นาที สิ้นเปลืองน้ำมันโดยเปล่าประโยชน์ 500 ซีซี




4. ทางเดียวกันไปด้วยกัน
ถ้าขับรถยนต์ 5 คัน ไปทางเดียวกัน ที่หมายใกล้กัน ระยะทาง 48 กม./คัน (ไป-กลับ) ใน 1 ปี (260 วันทำงาน) จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 5,200 ลิตร คิดเป็นค่าน้ำมัน 78,000 บาท ถ้าร้อยละ 1 ของรถยนต์ 5 ล้านคัน ใช้ Car Pool สลับขับ 5 คน ต่อรถ 1 คัน ใน 1 ปี จะประหยัดน้ำมันได้ 41.6 ล้านลิตร คิดเป็นเงิน 624 ล้านบาท





5. หลีกเลี่ยงชั่วโมงเร่งด่วน
ถ้ารถติดเพียงร้อยละ 1 ของ จำนวนรถยนต์ 5 ล้านคัน ในวันทำงานทุกวัน และในบางเสาร์-อาทิตย์ ใน 1 ปี (330 วัน/ปี) จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 12.4 ล้านลิตร คิดเป็นค่าน้ำมัน 186 ล้านบาท




6. ใช้โทรศัพท์-โทรสารเลี่ยงรถติด
ใช้อุปกรณ์สื่อสารแทนการเดินทาง เช่น ส่งหนังสือระหว่างหน่วยงาน หากเร่งด่วนก็ใช้วิธีส่งทางโทรสาร หากเป็นเอกสารสำคัญก็ใช้วิธีรวบรวมเอกสารแล้วส่งพร้อมกัน หนังสือเวียนที่ไม่สำคัญก็ใช้วิธีส่ง E-Mail หรือส่งไปรษณีย์




7. วางแผนก่อนเดินทาง
ถ้าไม่ศึกษาเส้นทางก่อนเดินทาง และขับรถหลงทาง 10 นาที จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 500 ซีซี คิดเป็นค่าน้ำมัน 7.50 บาท
ถ้ารถยนต์ 5 ล้านคัน ขับหลงทาง เฉลี่ยเดือนละ 1 ครั้ง ใน 1 ปี จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 30 ล้านลิตร คิดเป็นค่าน้ำมัน 450 ล้านบาท





8. ลมยางต้องพอดี ไส้กรองต้องสะอาด
ความดันลมยางอ่อนกว่ามาตรฐาน 1 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ถ้าขับทุกวันเฉลี่ยวันละ 48 กม. ใน 1 เดือน
รถยนต์ - สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 2.4 ลิตร
รถจักรยานยนต์ - สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.2 ลิตร
รถบรรทุก - สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 4.2 ลิตร

ถ้าร้อยละ 30 ของรถแต่ละประเภท ละเลยเช่นนี้บ่อยๆ รวมเป็น 30 วัน/ปี
จะสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 5.8 ล้านลิตร
คิดเป็นเงิน 87 ล้านบาท

ถ้าไส้กรองสะอาด จะช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันวันละ 65 ซีซี
ควรทำความสะอาดทุก 2,500 กม.
ควรเปลี่ยนทุก 20,000 กม.





9. ไม่บรรทุกของเกินจำเป็น
หากขับรถโดยบรรทุกของที่ไม่จำเป็น ประมาณ 10 ก.ก. เป็นระยะทาง 25 ก.ม. สิ้นเปลืองน้ำมัน 40 ซีซี ถ้าร้อยละ 10 ของรถยนต์ทั่วประเทศ 5 ล้านคัน ขับรถโดยบรรทุกสิ่งของที่ไม่จำเป็น ใน 1 ปี จะสิ้นเปลืองน้ำมัน 7.3 ล้านลิตร คิดเป็นเงิน 10.95 ล้านบาท




10. ตรวจเช็คเครื่องยนต์เป็นประจำ
- เปลี่ยนไส้กรองตามกำหนด
- เปลี่ยนน้ำมันหล่อลื่นทุก 5,000 กม.
- ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง และน้ำในแบตเตอรี่
- ตรวจสอบระดับน้ำป้อนหม้อน้ำ
- ปรับปรุงสมรรถนะรถยนต์ให้ดีตลอดเวลา ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ ร้อยละ 3- 9

Read More......

ကေမာၻဇဘဏ္ မန္ေနဂ်င္းဒါ႐ုိက္တာ စစ္ေဆးခံရ ဘဏ္ကေငြေတြ အလုအယက္ျပန္ထုတ္

via Dawnmanhon( ေဒါင္းမာန္ဟုန္ ) by thanhtut on 7/29/08


NEJ/ ၂၉ ဇူလုိင္ ၂၀၀၈
ကေမာၻဇဘဏ္၏ မန္ေနဂ်င္းဒါ႐ုိက္တာျဖစ္သူ ထိန္းသိမ္းစစ္ေဆးခံေနရသျဖင့္ ဘဏ္တြင္ ေငြအပ္ ထားသူမ်ား ယခုရက္ပုိင္းအတြင္း ေငြျပန္ထုတ္ယူေနၾကမႈ မ်ားေနသည္။

ကေမာၻဇဘဏ္သည္လည္း ျမန္မာေမဖလား၀ါးႏွင့္ အာရွဓနဘဏ္မ်ားကဲ့သို႔ မၾကာခင္ ဖ်က္သိမ္း ခံရဖြယ္ရွိသည္ဟု ျပင္ပတြင္ ေကာလာဟလမ်ား ထြက္လာၿပီးေနာက္ ယခုကဲ့သုိ႔ ဘဏ္အပ္ေငြ မ်ားကုိ ျပန္ထုတ္လာၾကျခင္းျဖစ္သည္။

ယခုလလယ္ခန္႔က ကေမာၻဇဘဏ္၏ မန္ေနဂ်င္းဒါ႐ုိက္တာျဖစ္သူ ဦးေဇာ္၀င္းႏုိင္ကုိ သက္ဆုိင္ ရာက ဖမ္းဆီးထိန္းသိမ္းစစ္ေဆးမႈမ်ား ျပဳရာမွ အဆုိပါ ေကာလာဟလ ထြက္ေပၚခဲ့ျခင္းျဖစ္သည္။ ဦးေဇာ္၀င္းႏုိင္ အဖမ္းခံရသည့္ ကိစၥႏွင့္ပတ္သက္၍ ကေမာၻဇဘဏ္သို႔ ေခတ္ၿပိဳင္က ဖုန္းအႀကိမ္ ႀကိမ္ဆက္ခဲ့ရာ နံပါတ္အားလုံး ဆက္သြယ္မရသည့္အတြက္ သီးျခားအတည္ျပဳႏုိင္ျခင္း မရွိ ေသးေပ။

"မူးယစ္ေဆးကိစၥနဲ႔ ပတ္သက္ၿပီး စစ္ေဆးေနတယ္ၾကားတာပဲ၊ ေမာင္၀ိတ္တုိ႔နဲ႔ ဆက္စပ္ေနတယ္ လုိ႔ ေျပာေနၾကတယ္" ဟု ပုိ႔ကုန္သြင္းကုန္ လုပ္ငန္းရွင္ႀကီးတဦးက ေျပာသည္။

အျခားဘဏ္မ်ား ေငြထုတ္ယူမႈ ပမာဏကုိ ကန္႔သတ္ခ်က္ရွိခ်ိန္က အခ်ိန္မေရြး လုိသေလာက္ မိမိအပ္ေငြကုိ ထုတ္ေပးေနခဲ့ေသာ ကမာၻဇဘဏ္သည္ ယခုအခါ တပတ္တြင္ တရက္ က်ပ္ (၁၀) သိန္းသာ အမ်ားဆုံးထုတ္ေပးေနေၾကာင္း ေငြအပ္ထားသူတဦးက ေျပာသည္။

"ဒါက ခုမွမဟုတ္ပါဘူး။ ဒီစည္းကမ္းကုိ ဗဟုိဘဏ္က ထုတ္ျပန္ထားတာ ၾကာပါၿပီ။ က်ေနာ္တုိ႔က ဘဏ္စည္းကမ္းအတုိင္း လုပ္ရတာပါ။ ဒီတပတ္ (၁၀) သိန္းထုတ္ၿပီးရင္ ေနာက္တပတ္ေတြမွာ လည္း တပတ္ တရက္ (၁၀) သိန္း ထုတ္ယူႏုိင္ပါတယ္" ဟု ကေမာၻဇ ဘဏ္ခြဲတခုမွ မန္ေနဂ်ာ တဦးက ေျပာသည္။

ဘဏ္မန္ေနဂ်င္းဒါ႐ုိက္တာျဖစ္သူ ဖမ္းဆီးခံေနရမႈႏွင့္ ပတ္သက္၍ ေမးျမန္းရာ ၎က မသိ ေၾကာင္း၊ ဘဏ္ႏွင့္ ပတ္သက္၍ ထြက္ေပၚေနေသာ ေကာလာဟလမ်ားမွာလည္း အမွားမ်ား သာျဖစ္ေၾကာင္း၊ မိမိတုိ႔ဘဏ္အေနျဖင့္ ပုံမွန္လည္ပတ္ေနႏုိင္ပါေၾကာင္း ထပ္မံရွင္းျပသည္။

ဘဏ္ႏွင့္ပတ္သက္၍ ေကာလာဟလမ်ား ထြက္ေပၚလာၿပီး တပတ္အၾကာတြင္ စီးပြားေရးလုပ္ငန္း ရွင္ အသုိင္းအ၀န္းတြင္ မေတြ႕ရသည္မွာ ၾကာၿပီျဖစ္ေသာ ဘဏ္ဥကၠ႒ျဖစ္သူ ဦးေအာင္ကုိ၀င္း (ဆရာေက်ာင္း) ကုိ ကမာရြတ္ၿမိဳ႕နယ္ ဘဏ္႐ုံးခ်ဳပ္သုိ႔ လာေရာက္ အစစ္ေဆးခံသြားသည္ကုိ ေတြ႕ရသည္ဟု ဆုိသည္။

ကေမာၻဇဘဏ္သည္ ဘဏ္ခြဲေပါင္း (၂၃) ခုႏွင့္ လည္ပတ္ေနကာ မုိင္း႐ွဴး၊ ဖားကန္႔တုိ႔တြင္လည္း ေက်ာက္မ်က္တူးေဖာ္ေရးလုပ္ငန္းမ်ား လုပ္ကုိင္ေနၿပီး စားအုန္းဆီ တင္သြင္းျခင္း၊ လမ္းေဖာက္ လုပ္ေရး စီမံကိန္းမ်ားႏွင့္ အင္းေလးအမွတ္တံဆိပ္ျဖင့္ ျပည္ပပုိ႔ကုန္ ဖိနပ္မ်ား ထုတ္လုပ္ေသာ လုပ္ငန္းမ်ား လုပ္ကုိင္လ်က္ရွိသည္။

ဖမ္းဆီးစစ္ေဆးခံေနရေသာ ဦးေဇာ္၀င္းႏုိင္မွာ ယခင္ စစ္ေထာက္လွမ္းေရးမွ ဗိုလ္မႉးခ်ဳပ္ သန္း ထြန္း၏ သားျဖစ္ၿပီး ဦးေအာင္ကုိ၀င္း၏ ေမြးစားသားျဖစ္သည္။ ဦးေအာင္ကို၀င္းသည္ စစ္အစုိးရ နံပါတ္ႏွစ္ျဖစ္သူ ဒု-ဗုိလ္ခ်ဳပ္ႀကီးေမာင္ေအးႏွင့္ နီးစပ္ပတ္သက္သူျဖစ္သည္ဟု ဆုိၾကသည္။ ။

Read More......

Monday, July 28, 2008

Thailand Lost Lands - Exchange with Independence - Worth?

Read More......

Excellent Thoughts

Read More......

Saturday, July 26, 2008

The World’s Best City - BANGKOK!

via Bangkok Guru by Tom on 7/25/08

I'm a born Bangkok man and, rightly so, proud to be living and working here. This is also part of the reason why I started this blog altogether. I believe with a passion that Bangkok is one of the world's best cities for a number of different reasons, be it the lovely food, low cost of living, friendly people, great night life and, yes, beautiful girls. :P

lovely bangkok

I don't know many people who have visited Bangkok and didn't like it, meaning it must be a bloody cool city. And to confirm this, I've got some great news to break to you guys here: Bangkok has been voted the world's best city for 2008 in an online poll by Travel+Leisure magazine, dethroning three-time winner Florence of Italy and beating the crap out of the likes of Sydney, Rome and even New York!

The great results were compiled from votes by tens of thousands of magazine subscribers in a worldwide poll going live between January and March this year. The popular online travel magazine honoured winner Bangkok on 24th July 2008 in New York City.

This is bloody good news for you and me alike. Now I can tell everyone I know that I'm the author of the best blog on the world's best city. How bloody wicked is that hahaha!

worlds best city bangkok

What are your thoughts on this story? Do you think Bangkok deserved such an honour? Of course you must do otherwise you can fuck off! Bangkok rules! :D



Read More......

Tuesday, July 22, 2008

နာဂစ္မုန္တုိင္းေၾကာင့္ ေငြေဖာင္းပြမႈ (၄၀) ရာႏႈန္းေက်ာ္ႏုိင္

via MSMA by makutarama on 7/22/08
22-07-2008

နာဂစ္မုန္တုိင္းေၾကာင့္ ျမန္မာႏုိင္ငံ၏ ေငြေဖာင္းပြမႈ ႏႈန္းမွာ ၂၀၀၇ ခုတြင္ (၃၄) ရာႏႈန္းရွိရာမွ ၂၀၀၈ ခုတြင္ (၄၀) ရာႏႈန္းထိ ေထာင္တက္သြားႏုိင္ၿပီး ျမန္မာ စီးပြားေရးအတြက္ စိုးရိမ္ဖြယ္ အေျခအေနမွာ ဆက္လက္ရွိေနမည္ဟု ဇူလုိင္ (၂၁) ရက္ေန႔က ထုတ္ျပန္သည့္ ကုလသမဂၢ၊ အာဆီယံ၊ ျမန္မာ သုံးပြင့္ဆုိင္ဗဟုိအဖြဲ႕ (PONJA) အစီရင္ခံစာက ေထာက္ျပထားသည္။

သဘာ၀ေဘးအႏၱရာယ္ ျပန္လည္ထူေထာင္ေရး ကာလမ်ားတြင္ ေငြေဖာင္းပြမႈႏႈန္းပါ တြဲပါလာတတ္ သည့္ သာဓကအမ်ားအျပားရွိခဲ့သည္။ ဆူနာမီေဘးထိ ခဲ့သည့္ အင္ဒိုနီးရွားႏုိင္ငံ အာခ်ဲျပည္နယ္ဆုိလွ်င္ ဆူနာမီမတုိင္မီက ေငြေဖာင္းပြမႈႏႈန္း (၇) ရာႏႈန္းကေန ျပန္လည္ထူေထာင္ေရးကာလတြင္ ေငြေဖာင္းပြမႈ (၄၀) ရာႏႈန္းထိ တက္သြားသည္ဟု အစီရင္ ခံစာက ေထာက္ျပထားသည္။ သို႔ေသာ္ အမွန္တကယ္ ေငြေဖာင္းပြမႈႏႈန္းက (၄၀) ရာႏႈန္းထက္ ပုိမ်ားႏုိင္သည္ဟု ျမန္မာစီးပြားေရး ပညာရွင္မ်ားက မွန္းထားသည္။

PONJA အစီရင္ခံစာအရဆုိလွ်င္ ျမန္မာႏိုင္ငံ ေငြေဖာင္းပြမႈႏႈန္းသည္ နာဂစ္ျပန္လည္ ထူေထာင္ေရး အစီအစဥ္၊ လုပ္ကို္င္ပုံအေနထား၊ လုိအပ္ခ်က္ေတြ ျပည့္မီေအာင္ ျဖည့္ဆည္းမႈအတုိင္းအတာေပၚ မူတည္၍ ထပ္တက္လာႏုိင္သည္ဟု ဆုိသည္။

မုန္တုိင္းတုိက္သည့္အတြက္ လမ္းပန္းဆက္သြယ္ေရး ပ်က္စီးမႈ၊ ေစ်းကြက္မ်ား၊ သိုေလွာင္ရိကၡာ ပ်က္စီးမႈ၊ အသက္ဆုံး႐ႈံးမႈတို႔ေၾကာင့္ လက္ရွိေငြေဖာင္းပြမႈႏႈန္းကုိ တုိးျမင့္ေစသကဲ့သုိ႔ ကုန္စည္ ျဖန္႔ျဖဴးေရးကုိလည္း ထိခုိက္ေစႏုိင္သည္ဟု အစီရင္ခံစာက ေဖာ္ျပထားသည္။

မုန္တုိင္းထိသည့္ ေဒသမ်ားတြင္ ျပန္လည္ထူေထာင္ေရး လုပ္ငန္းမ်ား စသည္ႏွင့္ လုပ္အားလုိ လာျခင္း၊ ေဆာက္လုပ္ေရး လုပ္ငန္းသုံး ပစၥည္းမ်ား ပုိမုိလုိလာျခင္း စသည့္အခ်က္မ်ားေၾကာင့္ လည္း ေငြေဖာင္းပြမႈကုိ ထပ္မံျမင့္တက္ေစသည့္ အေၾကာင္းတရားမ်ားျဖစ္သည္ဟုပါ အစီရင္ ခံစာတြင္ ေထာက္ျပထားသည္။
(NEJ)

Read More......
Template by : kendhin x-template.blogspot.com