Friday, September 26, 2008

วิธีสังเกตอาการเบื้องต้นของมะเร็งชนิดต่างๆ

อาการของการเกิดมะเร็งในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย

1. มะเร็งปากมดลูก อาการ มีเลือดออกจากช่องคลอดทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่เวลารอบเดือนปกติของคุณอาการเจ็บปวดและมีเลือดออกหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หากพบว่ามีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น การตรวจโดยขูดเนื้อเยื่อจากบริเวณดังกล่าวไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะรู้ได้

2. มะเร็งในมดลูก อาการ มีเลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ หรือบางครั้งอาจมีความรู้สึกว่ามีก้อนเนื้อหรือมีอาการบวมในช่องท้อง

*3. มะเร็งรังไข่ อาการ ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออนหรือการมีอาการเจ็บปวดหลังการมีเพศสัมพันธ์ > มีปัญหาเกี่ยวกับลำไส้อาการท้องอืดอาหารไม่ย่อย น้ำหนักลดและมีอาการปว ดหลัง

4. มะเร็งในเม็ดเลือด (ลูคีเมีย) อาการเหนื่อยง่ายและมีอาการซีดเซียวกว่าปกติมักเกิดอาการฟกช้ำดำเขียว หรือมีเลือดออกทางผิวหนังได้ง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุและมักจะเกิดร่วมกับอาหารปวดตามข้อต่าง ๆ ทั่วร่างกายบางครั้งจะท้องอืดและเมื่อคลำดูจะพบว่ามีก้อนบวมที่ด้านซ้ายของช่องท้อง

5. มะเร็งปอด อาการ มักมีอาการไอบ่อย ๆ มีเลือดออกและมีเสมหะปนมากับน้ำลายน้ำหนักลดอย่างฮวบฮาบ เจ็บหน้าอกและหายใจลำบากหรืออาจมีอาการหอบปนอยู่ด้วยทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

6. มะเร็งตับ อาการ ปวดในช่องท้อง เบื่ออาหาร น้ำหนักลดตาและผิวเป็นสีออกเหลืองและเหลืองจัดจนเห็นได้ชัด

7. มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการ มีเลือดปนออกมากับปัสสาวะ

*8. มะเร็งสมอง อาการ ปวดศีรษะนาน ๆ และมักมีอาการอื่นร่วมด้วยเช่นอาเจียนหรือการผิดปกติของการมองเห็น ตาพร่า และเห็นแสงเขียว ๆ แดง ๆ ลอยไปมาเวลาปวดศีรษะ อ่อนเพลียไม่มีแรง หรือ การเป็นลมโดยกะทันหันอวัยวะบางส่วนของร่างกายหยุดทำงานเช่นมีอาการชาและเป็นอัมพาตชั่วคราวควรให้ความระวังเป็นพิเศษหากคุณเคยมีประวัติการปวดหัวที่มีอาการเหล่านี้ประกอบอยู่ด้วย

9. มะเร็งในช่องปาก อาการ มีก้อนบวมอยู่ในปาก หรือทีลิ้นเป็นเวลานานมีแผลเปื่อยที่ปากที่ไม่ได้รับการรักษา หรือเป็นแผลเรื้อรังที่เหงือกเนื่องจากการกดทับของฟันปลอมที่ใส่ไว้ประจำหรือเป็นเวลานาน

10. มะเร็งในลำคอ อาการ เสียงแหบพร่าไปทันที มีก้อนบวมในทันทีทำให้รู้สึกว่ากลืนอาหารได้ลำบาก หรือมีการขยายตัวของต่อมในลำคอที่โตขึ้นจนสามารถจับและรู้สึกได้

11. มะเร็งในกระเพาะอาหาร อาการน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วอาเจียนออกมาเป็นเลือดท้องอืดหรืออาหารไม่ย่อยบ่อย รู้สึกเหมือนมีก้อนเนื้องอกในช่องท้องหรือรู้สึกตื้อ แม้เพิ่งจะรับประทานอาหารไปได้ไม่กี่คำ

12. มะเร็งทรวงอก อาการมีเลือดหรือของเหลวบางอย่างไหลออกมาจากหัวนมบวมหรือผิวเนื้อทรวงอกหนาขึ้นมีก้อนบวมจนจับได้เมื่อคลำบริเวณใต้รักแร้บางครั้งอาจมีตุ่มหรือสิวเกิดขึ้นที่เต้านมเป็นเวลานานควรระวังเพราะผู้หญิง 9 ใน 10 คนจะมีอาการบวมของก้อนเนื้อบริเวณทรวงอกโดยไม่ทราบสาเหตุเมื่อมีอายุมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้เกิดเป็นถุงน้ำใต้ผิวหนังที่เรียกว่าซีสต์ซึ่งควรต้องค้นหาสาเหตุของอาการบวมนั้นให้ชัดเจนเสียก่อนว่าคืออะไรกันแน่

*13. มะเร็งลำไส้ อาการ น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วมีอาการปวดท้องอย่างมากและระบบการย่อยผิดปกติ มีเลือดออกปนมากับอุจจาระ

****ซึ่งมีวิธีสังเกตของผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับริดสีดวงทวารอยู่แล้วคือถ้าใช้กระดาษทิชชูซับแล้วเลือดมีสีแดงสดนั่นคืออาการของริดสีดวงทวารแต่ถ้าเลือดมีสีดำคล้ำนั่นคือ อาการของโรคมะเร็งในลำไส้

14. มะเร็งต่อมน้ำเหลือง อาการมีก้อนบวมเกิดขึ้นที่ใต้รักแร้หรือใต้ขาหนีบโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ได้เกิดอาการติดเชื้อในบาง ส่วนของร่างกายมะเร็งผิวหนัง อาการมีแผลหรือแผลเปื่อยพุพองที่ไม่ได้รับการรักษาอยู่เป็นเวลานานตลอดจนไฝหรือหูดที่โตขึ้นและมีการเปลี่ยนสีหรือรูปร่าง ขนาด นอกจากนี้อาการอันตรายอีกอย่างหนึ่งที่ เรียกว่าเมลาโนมา ( Melanoma)ค ือเนื้อ งอกที่ประกอบด้วยเซลล์ที่มีเมลานินสะสมอยู่ เช่น กระจุดด่างหรือไฝถ้าคุณมีไฝมากกว่า 50 เม็ดทั่วร่างกายหรือมีคนในครอบครัวที่มีประวัติว่าเคยเป็นโรคนี้มาก่อนคุณจะมีอัตราเสี่ยงสูงกว่าคนอื่นๆ ส่วนอันนี้เค้าฟอเวิร์ดติดมาด้วย

ถึงท่านผู้โชคดี ขอให้ท่านนำเรื่องนี้ไปบอกต่อเป็นวิทยาทาน ท่านจะโชคดีมีความสุขตลอดกาล ตำรานี้ใช้แก้โรคมะเร็งผู้เป็นมะเร็งจะหายโดยไม่คาดคิดสำหรับมะเร็งจะหายภายใน 6 วัน

วิธีรักษา - ไปที่ร้านยาจีน ซื้อหัวเตย 1 ตำลึง หัวขิง 1 ตำลึงก้อนเกลือ 3 ก้อน นำมารวมกันแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ 1 วัน ในน้ำ 1 ชาม ให้ดื่มจนหมดชาม

สรรพคุณในการรักษา - หลังจากดื่มยานี้แล้ว ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ นำส่วนที่เหลือมารับประทาน

ยานี้จะขับเอาของเสียออกทางอุจจาระหรือปัสสาวะไม่ต้องตกใจ เป็นการขับของเสียออกหมดแล้วจะปกติ


Read More......

14 ที่สุดในชีวิตเรา

1. ศัตรูที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ตัวเราเอง

2. ความล้มเหลวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอวดดี

3. การกระทำที่โง่เขลาที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกลวง

4. สิ่งที่แสนสาหัสที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอิจฉาริษยา

5. ความผิดพลาดมหันต์ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การยอมแพ้ตัวเอง

6. สิ่งที่เป็นอกุศลที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การหลอกตัวเอง

7. สิ่งที่น่าสังเวชที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความถดถอยของตัวเอง

8. สิ่งที่น่าสรรเสริญที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความอุตสาหะ วิริยะ

9. ความล้มละลายที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ ความสิ้นหวัง

10. ทรัพย์สมบัติที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ สุขภาพที่สมบูรณ์

11. หนี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ หนี้บุญคุณ

12. ของขวัญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้อภัยและความเมตตากรุณา

13. ข้อบกพร่องที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตเรา ก็คือ การมองโลกในแง่ร้ายและไร้เหตุผล

14. สิ่งที่ทำให้อิ่มอกอิ่มใจที่! สุดในชีวิตเรา ก็คือ การให้ทาน

Read More......

Wednesday, September 24, 2008

ျမန္မာႏိုင္ငံ၏ အက်င့္ပ်က္ လာဘ္စားမႈ ပိုလာ

အျပည္ျပည္ဆိုင္ရာ ထင္သာျမင္သာရွိမႈအဖြဲ႔ (Transparency International - TI) ၏ ေနာက္ဆံုး ထုတ္ျပန္လိုက္ေသာ စစ္တမ္းအရ ျမန္မာ့ လူ႔အဖြဲ႔အစည္းသည္ အက်င့္ပ်က္ လာဘ္စားမႈ ပိုမိုလာခဲ့သည္ဟု ဆို ...

ခ်င္းမုိင္။ ။ အျပည္ျပည္ဆိုင္ရာ ထင္သာျမင္သာရွိမႈအဖြဲ႔ (Transparency International - TI) ၏ ေနာက္ဆံုး ထုတ္ျပန္လိုက္ေသာ စစ္တမ္းအရ ျမန္မာ့ လူ႔အဖြဲ႔အစည္းသည္ အက်င့္ပ်က္ လာဘ္စားမႈ ပိုမိုလာခဲ့သည္ဟု ဆိုပါသည္။

ယမန္ေန႔က ထုတ္ျပန္ခဲ့ေသာ အစီရင္ခံစာအရ ေလ့လာ စူးစမ္းမႈမ်ား ျပဳလုပ္ခဲ့ေသာ ႏိုင္ငံေပါင္း ၁၈ဝ အနက္ ျမန္မာႏိုင္ငံသည္ လာဘ္စားမႈ သေဘာထား အျမင္အညႊန္း (Corruption Perceptions Index – CPI) ၌ ေအာက္ဆံုးအဆင့္ ဆိုမာလီယာႏိုင္ငံ ၿပီးလွ်င္ ဒုတိယအဆိုးဆံုး ႏိုင္ငံအျဖစ္ အီရတ္ႏိုင္ငံႏွင့္ အမွတ္တူ ရွိေနသည္ဟု ဆိုပါသည္။

သို႔ေသာ္ ဤေလ့လာေတြ႔ရွိခ်က္သည္ ျမန္မာႏိုင္ငံအတြက္ တခုလံုး ျခံဳသည့္အဆင့္တခု မဟုတ္ဘဲ ပွ်မ္းမွ်အဆင့္မွ်သာ ရွိေနပါသည္။ TI က အသံုးျပဳေသာ အဆင့္သတ္မွတ္ခ်က္ ဇယားတြင္ အဆင့္သုညမွ တဆယ္အထိရွိၿပီး၊ အဆင့္သုညသည္ လာဘ္စားမႈ အဆိုးဝါးဆံုး အေျခအေနကို ျပသည္။

ဤသတ္မွတ္ခ်က္အရ ျမန္မာႏိုင္ငံ၏ အဆင့္သည္ ၂ဝဝ၆ ခုႏွစ္တြင္ အဆင့္ ၁.၉ ရွိရာမွ ေနာက္ဆံုး ေလ့လာခ်က္တြင္ အဆင့္ ၁.၃ သို႔ က်ဆင္းသြားခဲ့သည္။ ဤအဆင့္သည္ TI က ေစာင့္ၾကည့္ ေလ့လာခဲ့ေသာ ျမန္မာႏိုင္ငံအေပၚ ေလ့လာမႈမ်ား၌ အနိမ့္ဆံုးအဆင့္ ျဖစ္သည္။

ရယ္စရာေကာင္းသည္မွာ ၂ဝဝ၇ ခုႏွစ္တြင္ ျမန္မာႏိုင္ငံႏွင့္ အမွတ္တူ ေနာက္ဆံုးအဆင့္တြင္ ရွိခဲ့သည့္ ဆိုမာလီယာထက္ ယခုႏွစ္တြင္ အဆင့္တဆင့္ တက္လာခဲ့ျခင္း ျဖစ္သည္။

TI ၏ အေျပာအရ ဤအညႊန္းကိန္းသည္ "ျပည္သူပိုင္ က႑၌ရိွေသာ အက်င့္ပ်က္ ျခစားမႈမ်ားကို ဗဟိုျပဳ ေလ့လာျခင္း ျဖစ္ၿပီး၊ အက်င့္ပ်က္ ျခစားမႈကို အဓိပၸါယ္ သတ္မွတ္ရာတြင္ "ကိုယ္က်ဳိးစီးပြါးအတြက္ ရာထူး အရွိန္အဝါကို အလြဲသံုးစား ျပဳျခင္းျဖစ္သည္"။ တိုင္းျပည္၏ ရမွတ္ကို တြက္ခ်က္ရာတြင္ ကၽြမ္းက်င္သူ အမ်ားအျပားႏွင့္ စီးပြါးေရး စစ္တမ္းမ်ားကို အေျခခံ တြက္ခ်က္ျခင္း ျဖစ္သည္။

ယမန္ႏွစ္က ေတြ႔ရွိခ်က္မ်ား အတိုင္းပင္ ယခု ေတြ႔ရွိမႈမ်ား အရလည္း CPI သည္ "ဆင္းရဲမြဲေတမႈ၊ အဖြဲ႔အစည္းစနစ္မ်ား က်ဆံုးျခင္းတို႔ႏွင့္ ဤလာဘ္စားမႈ ဆိုးဆိုးဝါးဝါး ဆက္ႏြယ္ေနသည္ကို မီးေမာင္းထိုးျပလ်က္ ရွိသည္" ဟု အျပည္ျပည္ဆိုင္ရာ ေစာင့္ၾကည့္ ေလ့လာေရး အဖြဲ႔ၾကီးက ေျပာၾကားထားပါသည္။

"ဝင္ေငြနည္း ႏိုင္ငံမ်ားတြင္ ျဖစ္ေစ၊ ဝင္ေငြမ်ား ႏိုင္ငံမ်ားတြင္ ျဖစ္ေစ၊ အက်င့္ပ်က္ လာဘ္စားမႈကို ေျဖရွင္း ကိုင္တြယ္ႏိုင္ရန္ အလုပ္ျဖစ္ လည္ပတ္ေနေသာ လူ႔အဖြဲ႔အစည္းဆိုင္ရာႏွင့္ အစိုးရဆိုင္ရာ အဖြဲ႔အစည္းၾကီးမ်ား လိုအပ္သည္။ ပိုမိုဆင္းရဲ မြဲေတေသာ ႏိုင္ငံမ်ားအတြက္မူ အက်င့္ပ်က္ လာဘ္စားေသာ တရားစီရင္ေရးစနစ္ လႊမ္းမိုးေနျခင္းကို မၾကာခဏ ေတြ႔ရၿပီး ထိေရာက္မႈမရွိသည့္ ပါလီမန္စနစ္ကိုလည္း မ်က္စိလွ်မ္းေနၾကသည္" ဟု TI ၏ ကမၻာလံုးဆိုင္ရာ အက်င့္ပ်က္ လာဘ္စားမႈ ေလ့လာစူးစမ္းမႈတြင္ ဆက္လက္ ေဖၚျပထားပါသည္။

အေျခခံက်ေသာ္ ျပႆနာမ်ား၏ ဗဟိုခ်က္မ၌ ရွိေနေသာ ျပည္သူပိုင္ က႑၌ စနစ္ၾကီးတခုလံုး အေနျဖင့္ အက်င့္ပ်က္ လာဘ္စားမႈမ်ား ျဖစ္ေပၚေနျခင္းကို ကိုင္တြယ္ရန္အတြက္ ကမၻာ့ ကုလသမဂၢ အေထြေထြ ညီလာခံကို ရည္ရြယ္ထားသည့္ ဤအစီရင္ခံစာ ျပဳစုတင္ျပသူမ်ား၏ သတင္းစကားတြင္ "အလႉရွင္ႏိုင္ငံမ်ား အေနႏွင့္ မိမိတို႔ ေပးအပ္လိုက္ေသာ ဖြံ႔ၿဖိဳးေရး အကူအညီမ်ားကို အကူအညီ လက္ခံေသာ ႏုိင္ငံမ်ားရွိ အစုိးရ အဖြဲ႔အစည္းမ်ာ းခိုင္မာေအာင္ လုပ္ေရးႏွင့္ ဤ အခ်က္ကို မ်က္စိလွ်မ္းမသြားေစေရးကို ေသခ်ာေအာင္ ဂ႐ုျပဳရန္လိုေၾကာင္း၊ သို႔မွသာ ဤဖြံ႔ၿဖိဳးမႈ အကူအညီမ်ား စီးဆင္းရာတြင္ အလြဲသံုးစားမႈႏွင့္ အဂတိ လိုက္စားမႈမ်ားမွ ကာကြယ္ႏိုင္မည္ ျဖစ္ေၾကာင္း" ေျပာဆိုထားၾကပါသည္။

မည္သို႔ပင္ဆိုေစ ဤ TI ၏ အဂတိလိုက္စားမႈကို ကုစားရန္ နည္းလမ္းမ်ားမွာ ျမန္မာႏိုင္ငံ၏ လတ္တေလာ ႏိုင္ငံေရး အၾကပ္အတည္း၊ ႏိုင္ငံတကာ မ်က္ႏွာစာတြင္ ရွိေနေသာ အဆင့္အတန္း ႏွင့္ ႏိုင္ငံအေပၚ ခ်မွတ္ထားေသာ ရွည္လ်ားလွသည့္ ပိတ္ဆို႔မႈ စာရင္းရွည္ၾကီးမ်ားေၾကာင့္ လက္ေတြ႔တြင္ ထိထိေရာက္ေရာက္ အလုပ္ျဖစ္မျဖစ္ ဆိုသည္မွာ မေသခ်ာပါ။

ေဒသအလိုက္ အေျခခံျဖင့္ၾကည့္လွ်င္ တခုလံုးအေနျဖင့္ အာရွပစိဖိတ္ ေဒသသည္ အေျခအေန ဆိုးလွၿပီး၊ ေဒသတြင္း ၃၂ ႏိုင္ငံအနက္ ၂၂ ႏိုင္ငံတြင္ သူသတ္မွတ္ထားသည့္ အက်င့္ပ်က္ လာဘ္စားမ ရွိေနျခင္းေၾကာင့္ ဤေဒသသည္ "ျပည္သူပိုင္က႑တြင္ ဆိုးဝါးသည့္ အက်င့္ပ်က္ လာဘ္စားမႈ ျပႆနာ" ရွိေနသည္ဟု ဆိုပါသည္။

ျမန္မာႏိုင္ငံ၏ ပွ်မ္းမွ်အမွတ္ ၁.၃ ေၾကာင့္ ဤဆင္းရဲမြဲေတသည့္ အေရွ႔ေတာင္အာရွႏိုင္ငံသည္ အၾကပ္အတည္းမ်ား ျပည့္ႏွက္ေနသည့္ ႏိုင္ငံမ်ားျဖစ္ေသာ ဆူဒန္၊ အာဖဂန္နစၥတန္ ႏွင့္ ေဟတီႏိုင္ငံ တို႔ေနာက္တြင္ ကပ္လ်က္ ရွိေနသည္။

၂ဝဝ၈ ခုႏွစ္အတြက္ အက်င့္ပ်က္ လာဘ္စားမႈ အနည္းဆံုး ႏိုင္ငံမ်ားအျဖစ္ စံတင္ ေဖၚျပခံရသည့္ ႏိုင္ငံမ်ားမွာ ဒိန္းမတ္၊ ဆြီဒင္ ႏွင့္ နယူးဇီလန္ႏိုင္ငံတို႔ ျဖစ္ၿပီး ထိုႏိုင္ငံမ်ားသည္ အမွတ္ ၉.၃ ရရွိသည္။

TI သည္ ယင္း၏ ႏွစ္စဥ္ထုတ္ျပန္ေသာ အစီရင္ခံစာကို ၁၉၉၅ ခုႏွစ္မွ စတင္၍ ထုတ္ျပန္ခဲ့သည္။

Read More......

စားေသာက္ဆုိင္မ်ားတြင္ တားျမစ္ဆုိးေဆးမ်ား ေတြ႔ရွိ

via khitlunge ျပည္တြင္းသတင္း on 9/24/08 အစားအစာေတြကို ဆုိးေဆးႏွင့္ အေရာင္တင္ရာတြင္ သံုးစြဲခြင့္ျပဳထားသည့္ ဆုိးေဆး(Permitted"Food Color)ႏွင့္စားေသာက္ကုန္ ဆုိးေဆး(Food Grate Dyer) မ်ားမသံုးပဲ ေစ်းသက္သာၿပီး၊ လိုအပ္"သည့္ အေရာင္းလြယ္လြယ္ႏွင့္ရရွိႏုိင္သည့္ စက္မႈသံုး ဆိုးေဆးမ်ားကို အသံုးျပဳလာၾကျခင္းက စားသံုး"သူမ်ား၏ က်န္းမာေရးကိုစိုးရိမ္စရာျဖစ္လာသည္။ ေန႔စဥ္စား စားေသာက္ကုန္ေစ်းကြက္အတြင္း သံုးစြဲ"ခြင့္မျပဳသည့္ ဆိုးေဆးမ်ား အသံုးျပဳေနဆဲျဖစ္ေၾကာင္း စစ္ေဆးေတြ႔ရွိသျဖင့္ ရန္ကုန္ၿမိဳ႕ေတာ္ စည္ပင္"သာယာေရးေကာ္မတီ က်န္းမာေရးဌာနမွ ဆုိးေဆးႏွင့္ ပတ္သက္သည့္ က်န္းမာေရး ေဟာေျပာပြဲမ်ား
ျပဳလုပ္ခဲ့ေၾကာင္း က်န္းမာေရးဌာနမွ ဌာနမႉး ေဒါက္တာေအာင္သန္းကေျပာသည္။ သံေစ်း၊ ေညာင္ပင္"ေလးေစ်း၊ ေမာ္တင္ေစ်း၊ ကုန္ေစ်းတန္းရွိ စားေသာက္ကုုန္ အေရာင္းဆုိင္တခ်ိဳ႕ရွိ အေရာင္တင္ငရုတ္"သိီးမႈန္႔၊ မွ်င္ငါးပိ၊ငါးပိေထာင္း၊ပုစြန္ခ်ဥ္တို႔တြင္သံုးရန္ခြင့္မျပဳသည့္ Rhodamine B ဆုိးေဆး၊ ပဲနီေလး၊"ငရုတ္ဆီ၊ အသားေျခာက္၊ အသားကင္၊ လက္ဖက္ေျခာက္ အခ်ိဳေျခာက္မ်ားတြင္ Orange II ဆိုးေဆး"ႏွင့္လက္ဖက္အစိုတြင္ Auramine O "ဆုိးေဆးမ်ား အသံုးျပဳထားေၾကာင္းစစ္ေဆးေတြ႔ရွိသျဖင့္ ပညာ"ေပးေဟာေျပာပြဲမ်ားျပဳလုပ္ျခင္းျဖစ္သည္။ခြင့္မျပဳဆုိးေဆး Rhodamine B၊ Auramine O၊ Orange II"ႏွင့္ Sudan ပါဝင္ေသာ အစားအစာမ်ားတြင္ စားသံုးမိပါကမ်က္စိ၊ လည္ေခ်ာင္းႏွင့္ ႏွာေခါင္းတုိ႔ယာယံ
ျခင္း၊ အသက္ရႈလမ္းေၾကာင္း၊ အသည္း၊ေက်ာက္ကပ္ႏွင့္အစာအိမ္လမ္းေၾကာင္းမ်ားကိုအဆိပ္ျဖစ္ေစ"ၿပီး တာရွည္သံုးပါက ကင္ဆာေရာဂါျဖစ္ကာ မ်ိဳးရိုးဗီဇကိုလည္းအဆိပ္အေတာက္(Genotoxic)ျဖစ္ေစ"ႏုိင္သည္ဟု သိရသည္။ ၿပီးခဲ့သည့္ေဖေဖာ္ဝါရီလက လည္းအသားကင္ဆုိင္မ်ားကိုစစ္ေဆးခဲ့ရာ Oran"-ge II ဆုိးေဆးအသံုးျပဳခဲ့ေၾကာင္း ေတ႔ြရွိခဲ့သျဖင့္အသားကင္ဆုိင္မ်ားတြင္လည္းအသိပညာေပးမႈမ်ား
ျပဳလုပ္ခဲ့သည္ဟု က်န္းမာေရးဌာနမွ တာဝန္ရွိသူ တစ္ဦးက ေျပာၾကားေၾကာင္း ၂၀၀၈ ခုႏွစ္ စက္တင္"ဘာလ ၂၅ ရက္ေန႔ထုတ္ 7 Day News ဂ်ာနယ္တြင္ ေဖာ္ျပထားပါသည္။

Read More......

Which Programs Should I Run To Scan A Computer For Malicious Software?

via gHacks technology news by Martin on 9/15/08

The amount of security applications for the end user has reached a point where the choice is adding to the insecurity and confusion of the user. So called experts all have their set of tools that they recommend for certain situations but it can happen that you get a set of totally different applications for the same task when asking two advanced users.

To give an example. Should a user run Ad-Aware, Spybot Search And Destroy, Spyware Terminator or one of the other dozen or so anti-spyware applications that can be used freely for personal non-commercial use.

To much choice can be confusing and this article tries to narrow down the list to security applications that are recommended most of the time. Some users will disagree with the choices and they have every right to do so. You can rest assured on the other hand that the selection of tools should be sufficient to scan a computer system thoroughly

Anti-Spyware:

Spyware usually refers to malicious software that tries to spy on the user or serve advertisement to him. This can be done with tracking cookies, changing the user's homepage or showing popups from time to time.

spyware terminator

  • Spybot Search And Destroy - Spybot Search and Destroy is updated regularly and does not confuse the user with different versions like Ad-Aware does with Ad-Aware Free, Plus and Pro.
  • Spyware Terminator - A tool that has been downloaded more than 17 million times should do a good job. Spyware Terminator is fast and efficient.

Anti-Virus:

Anti-virus applications create probably the most controversy. There is so much choice of free and commercial applications that makes it nearly impossible to make a decision. The applications protect the computer in realtime and can scan the computer thoroughly.

  • AVG Anti-Virus - A classic anti-virus software that provides protection against viruses, rootkits and spyware.
  • Free AV - Antivir protects the computer against viruses, rootkits, dialers and phising.

Rootkits:

Rootkits have been gaining popularity in the last years and one could say that Sony did not have a small part in raising the public's perception of rootkits with their music CDs that contained a rootkit in order to prevent customers from copying the music.

rootkit unhooker

  • Rootkit Unhooker - a portable rootkit scanner with a size of under 100 Kilobyte.
  • Gmer - is another tool to scan the computer for rootkits.

Read More......

Tuesday, September 23, 2008

ထိုင္း DTAC ဖုန္းတြင္ ျမန္မာသီခ်င္း နားေထာင္ႏိုင္

Posted by The Irrawaddy Magazine | Thursday, September 18, 2008 | | 0 comments »

ေအးလဲ့ | စက္တင္ဘာ ၁၇၊ ၂၀၀၈

ထိုင္းႏိုင္ငံရွိ DTAC ဖုန္း ကုမၸဏီ၏ Ring 4U ဟုေခၚေသာ ျမန္မာသီခ်င္း နားေထာင္ႏိုင္သည့္ ဝန္ေဆာင္မႈ အစီအစဥ္သည္ ထိုင္းႏိုင္ငံေရာက္ ျမန္မာႏိုင္ငံသားမ်ားအၾကား ေရပန္းစား ေနေၾကာင္း သိရသည္။

DTAC ကုမၸဏီ ၏ Ring 4U ဝန္ေဆာင္မႈလုပ္ငန္းမွ တာဝန္ရွိသူတဦးက ျမန္မာသီခ်င္းနား ေထာင္လုိသူမ်ား အတြက္ ျမန္မာသီခ်င္း ပုဒ္ေရ ၄၅ ပုဒ္ ခန္႔ရွိၿပီး သီခ်င္းေတာင္းႏိုင္ေၾကာင္း ဧရာဝတီ ကိုေျပာသည္။

၎ဝန္ေဆာင္မႈကို အသံုးျပဳ လုိပါက *7001 ကိုႏွိပ္ၿပီး ျမန္မာဘာသာျဖင့္ ကိုယ္ႀကိဳက္ႏွစ္သက္ရာ သီခ်င္း ေရြးခ်ယ္ႏိုင္ရန္အတြက္ လမ္းညြန္ေပးမည္ျဖစ္သည္ဟုလည္း သိရသည္။။

အဆိုပါ နံပါတ္ကို ႏွိပ္စဥ္“သာယာနာ ေပ်ာ္ဖြယ္သီခ်င္း အစီအစဥ္မွ ႀကိဳဆိုပါတယ္၊ ကိုယ္ႀကိဳက္ႏွစ္သက္ရာ ကို ေရြးခ်ယ္ႏိုင္ပါတယ္ ”ဟု ဝန္ေဆာင္မႈ ေပး၍ လမ္းညြန္ထားသည္။

၎ဝန္ေဆာင္မႈမွာ သီခ်င္း တပုဒ္ တႀကိမ္အတြက္ ထိုင္းဘတ္ ၅ ဘတ္ ေပးေဆာင္ရၿပီး တလအတြက္ သီခ်င္း ေတာင္းမည္ ဆိုပါ က ၃၁ ဘတ္ ေပးေဆာင္ရမည္ျဖစ္သည္။

“အခုလို ကိုယ့္ ျမန္မာသီခ်င္းကို ဖုန္းမွာ နားေထာင္ရေတာ့ ေပ်ာ္ပါတယ္၊ ဒါကို က်ေနာ္တို႔ေတြ ဘန္ေကာက္ ၊ မဲေဆာက္နဲ႔ ခ်င္းမိုင္းမွာရွိတဲ့ သူငယ္ခ်င္းေတြ ဆီက အခ်င္းခ်င္းရၾကတယ္္” ဟု ထိုင္းႏိုင္ငံခ်င္းမိုင္ၿမိဳ႕ရွိ ျမန္မာႏိုင္ငံသားအမ်ားစု ေစ်းေရာင္းသည့္ ညေစ်း (Night Bazaar) တြင္ အလုပ္လုပ္ေနေသာ ကိုေအာင္ထြန္းက ေျပာသည္။

DTAC ဖုန္းကုမၸဏီသည္ ထိုင္းႏိုင္ငံဆက္သြယ္ေရး ၀န္ေဆာင္မႈအတြက္ ၁၉၈၉ ခုႏွစ္ ၾသဂုတ္လတြင္ စတင္ ခဲ့ၿပီး ယခုႏွစ္ မတ္လအထိ အသံုးျပဳသူဦးေရ ၁၆ သန္း ရွိေၾကာင္း DATC ကုမၸဏီ အင္တာနက္ စာမ်က္ႏွာ တြင္ ေဖာ္ျပထားသည္။

ထိုင္းႏိုင္ငံအတြင္း၌ ျမန္မာေ႐ႊ႕ေျပာင္း အလုပ္သမား သန္းႏွင့္ခ်ီ၍ ေနထိုင္လုပ္ကိုင္လ်ွက္ ရွိေၾကာင္း သက္ဆိုင္ရာ အဖြဲ႕အစည္းမ်ား၏ ထုတ္ျပန္ခ်က္အရ သိရသည္။

Read More......

สาวแขมร์ใช้สารหล่อลื่นสำหรับมีเพศสัมพันธ์ทาหน้ารักษาสิว


โดย ผู้จัดการออนไลน์ 23 กันยายน 2551 15:53 น.
อึ้ง! สาวแขมร์ใช้สารหล่อลื่นสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ ทาหน้ารักษาสิว อย.ยันตรวจสอบแล้วไม่ใช่สารในถุงยาง เผยสารหล่อลื่นไม่มีตัวยารักษาสิว เตือนสาวๆ ไม่ควรนำมาใช้กับใบหน้าเด็ดขาด

นพ.นรังสันต์ พีรกิจ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า จากกรณีสาวกัมพูชานำสารหล่อลื่น "นัมเบอร์วัน พลัส" มาทาใบหน้าเพราะเชื่อมีประสิทธิภาพในการรักษาสิวนั้น อย.ได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่า "นัมเบอร์วัน พลัส" เป็นผลิตภัณฑ์สารหล่อลื่นช่วยในขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ มีวัตถุประสงค์การใช้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นหรือช่วยหล่อลื่นในขณะมีเพศสัมพันธ์ จึงไม่ใช่ถุงยางอนามัย และไม่ใช่สารหล่อลื่นที่อยู่ในถุงยางอนามัยแต่อย่างใด

"สำหรับผลิตในประเทศไทย มีการส่งออกไปจำหน่ายแก่องค์กรบริการประชากรนานาชาติ (พีเอสไอ) ประเทศกัมพูชา โดยสารหล่อลื่น "นัมเบอร์วัน พลัส" มีส่วนประกอบของสารที่มีคุณสมบัติเป็นสารหล่อลื่นและให้ความชุ่มชื้น ซึ่งส่วนประกอบสำคัญ คือ สารที่ทำให้เกิดเนื้อเจลและวัตถุกันเสีย โดยไม่มีส่วนประกอบของสารที่มีคุณสมบัติใช้รักษาสิวตามที่เป็นข่าว ดังนั้น การนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาใช้แต้มรักษาสิว จึงเป็นความเข้าใจผิดของผู้ใช้และเป็นการใช้ผิดวัตถุประสงค์ อย.ขอเตือนสาวๆ อย่านำสารหล่อลื่นดังกล่าวมาใช้ในการรักษาสิวบนใบหน้า เพราะไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด อีกทั้งยังเป็นการไม่เหมาะสมอีกด้วย" นพ.นรังสันต์กล่าว

Read More......

อวสานของฮาร์ดดิสก์ - The End of Hard Drives

via Nano in Thailand Blog (นาโน เมืองไทย) by อาจารย์นอย on 9/22/08

เมื่อต้นเดือนกันยายน 2551 ที่ผ่านมา Intel ซึ่งเป็นบริษัทผลิตไมโครชิพยักษ์ใหญ่ของโลก ได้ประกาศที่จะสยายปีกเข้ามาครอบครอง ตลาดการเก็บข้อมูลซึ่งเป็นของฮาร์ดดิสก์ ด้วยการเปิดตัว Solid State Drives (SSDs) หรือ Flash Memory ที่เราคุ้นเคยนั่นเอง ซึ่งเจ้า Thumb Drive ที่เรานิยมใช้กันอยู่นี้ได้มีความเร็วที่เพิ่มขึ้นเทียบเคียงฮาร์ดดิสก์แล้ว (และตอนนี้ก็มีความเร็วแซงหน้าฮาร์ดดิสก์ไปแล้ว) แถมมีความจุสูงขึ้นในราคาที่ถูกลงเรื่อยๆ เบื้องต้น Intel เขาจะทุ่มตลาด SSD ที่ขนาด 80 GB ก่อน จากนั้นก็จะมี 160GB กับ 250 GB ออกตามมา ซึ่งนักวิเคราะห์คาดหมายว่า SSD จะเข้ามาแทนที่ฮาร์ดดิสก์ในตลาดโน๊ตบุ๊คในอีกไม่ช้า (ในบ้านเราก็เริ่มมีความนิยมโน๊ตบุ๊คที่ไม่มีฮาร์ดดิสก์กันมากขึ้นอย่างชัดเจน เพราะทั้งเบาและประหยัดพลังงาน)

ข้อดีของ SSD ก็คือมันใช้หน่วยความจำที่เป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้การโหลดโปรแกรมและเก็บข้อมูลสามารถทำได้เร็วกว่าฮาร์ดดิสก์มากๆ ดังนั้นการที่เราจะเริ่มรันโปรแกรม เช่น ตอนเปิดเครื่องขึ้นมาใช้ มันจะทำได้เร็วมาก ในขณะที่ฮาร์ดดิสก์จะทำการโหลดข้อมูลเข้าหน่วยความจำทำได้ช้ากว่า เราจึงต้องรอตอนเปิดเครื่องเป็นเวลานานๆ กว่า Windows จะโหลดขึ้นมาและเริ่มทำงาน ฮาร์ดดิสก์จึงไม่เหมาะกับโน๊ตบุ๊ค ซึ่งต้องการความเร็วในการใช้งาน นอกจากนั้น SSD ยังทนร้อนทนหนาวได้ดีกว่าฮาร์ดดิสก์ด้วยครับ โดยทั่วไปฮาร์ดดิสก์จะชอบทำงานที่อุณหภูมิระหว่าง 5-55 องศาเซลเซียส แต่ SSD สามารถทำงานได้ที่อุณหภูมิ -40 ถึง 85 องศาเซลเซียส นักวิเคราะห์จึงฟันธงว่า ต่อไป SSD จะเข้าไปอยู่ในตลาดของความบันเทิงในรถยนต์แน่นอน รวมไปถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่แบบ Outdoor ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตอล เครื่องเล่น MP3

น่าเป็นห่วงครับ เพราะอุตสาหกรรมฮาร์ดดิสก์ในบ้านเรามีมูลค่าถึง 200,000 ล้านบาท และถ้าจะเกิดอุตสาหกรรม SSD ขึ้นมาทดแทนฮาร์ดดิสก์ ประเทศที่จะเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เก็บข้อมูลแทนประเทศไทยจะกลายเป็น จีน มาเลเซีย เวียดนาม เพราะการผลิต SSD ไม่ต้องการผลิตชิ้นส่วนมากมายเหมือนฮาร์ดดิสก์ การตั้งฐานผลิตทำได้ง่ายกว่ามากครับ


(ภาพบน: พริตตี้กำลังแสดงสินค้า SSD ที่นับวันจะเบียดฮาร์ดดิสก์ตกขอบเข้าไปทุกที)(ภาพล่าง: เมื่อปี ค.ศ. 2004 บริษัท Toshiba วางแผนนำสินค้าฮาร์ดดิสก์ขนาดจิ๋วที่มีความจุ 2GB ออกวางตลาดสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ แต่แผนนี้ก็มีอันพังพาบไปเพราะ Thumb Drives นั่นเอง)

Read More......

Friday, September 19, 2008

ประเทศที่ไม่ต้องขอวีซ่า






ประเทศไทยได้ทำความตกลงยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทางกับประเทศต่างๆ จำนวน 50 ประเทศ ซึ่งผู้ถือหนังสือเดินทางไทยสามารถเดินทางเข้าไปในดินแดนของประเทศภาคีได้โดยไม่ต้องขอรับการตรวจลงตรา (วีซ่า) และจะได้รับอนุญาตให้พำนักอยู่เป็นเวลาต่างๆ กันตามความตกลง

หนังสือเดินทางทูตและราชการ

ประเทศที่อยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน

    เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์
    สิงคโปร์ ออสเตรีย ตุรกี
    เบลเยี่ยม ลักเซมเบอร์ก เปรู
    นอร์เวย์ เยอรมัน อิสราเอล
    สวิตเซอร์แลนด์ เช็ค เม็กซิโก
    อาร์เจนตินา สวีเดน ฟินแลนด์
    ฮังการี เนปาล โปแลนด์
    เนเธอร์แลนด์ อิตาลี ลิกเตนสไตน์
    โรมาเนีย บราซิล เดนมาร์ก
    ชิลี สโลวัก แอฟริกาใต้
    หมู่เกาะโซโลมอน
ประเทศที่อยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน


หนังสือเดินทางประเทศไทย เริ่มจากบนซ้ายตามเข็มนาฬิกา ประเภทธรรมดา ทางราชการ ทางการทูต และเดินทางชั่วคราว
    ฮ่องกง จีน มองโกเลีย
    ลาว มาเลเซีย พม่า
    เวียดนาม อินโดนีเซีย
ประเทศที่อยู่ได้ไม่เกิน 14 วัน

    บรูไน
หนังสือเดินทางธรรมดา

ประเทศที่อยู่ได้ไม่เกิน 90 วัน

    เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ บราซิล
    เปรู
ประเทศที่อยู่ได้ไม่เกิน 60 วัน

    อินโดนีเซีย
ประเทศที่อยู่ได้ไม่เกิน 30 วัน

    มาเลเซีย เขตปกครองพิเศษฮ่องกง แอฟริกาใต้
ประเทศที่อยู่ได้ไม่เกิน 21 วัน

    ฟิลิปปินส์
ประเทศที่อยู่ได้ไม่เกิน 14 วัน

    สิงคโปร์
    บรูไน

Read More......
Template by : kendhin x-template.blogspot.com